แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

รวมสูตร ส้มตำ เมนูเด็ดลำดับที่ 4

รวมสูตร ส้มตำ

รวมสูตร ส้มตำ เมนูเด็ดของทางภาคอีสาน ที่โด่งดังไปทั่วไทย และทั่วโลก ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน กลมกล่อม และแคลอรี่ต่ำ ที่คนต่างชาตินิยมเรียกกันว่าสลัดมะละกอ (papaya salad) ซึ่งเมนูนี้สามารถ รวมสูตร ส้มตำ ให้ปรุงรสได้อย่างหลากหลาย เช่น ตำไทย ตำปูปลาร้า หรือจะประยุกต์ด้วยการนำผัก ผลไม้อื่นๆ เข้ามารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ที่ให้ความอร่อยได้ ซึ่งก็มีคะแนนความง่ายในการทำอยู่ที่ 4 คะแนน

รวมสูตร ส้มตำ มีวิธีทำหลากหลายสูตร ดังนี้

รวมสูตร ส้มตำ อาหารอีสานที่โด่งดัง และเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ด้วยรสที่อร่อยแบบจัดจ้าน ทำให้เมนูนี้ ได้ครองแชมป์เมนูที่มียอดสั่งสูงสุดในปี 2022 บนแอปพลิเคชั่น LINE MAN [1] โดยเนื้อหาต่อไปนี้ได้เรา รวมสูตร ส้มตำ จากแหล่งต่างๆ มาบอกต่อ ดังนี้

1. wongnai

รวมสูตร ส้มตำ จาก เว็บไซต์ wongnai ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

ตำลาว

“ตำลาว” หรือ “ตำหมากหุ่ง” จัดเป็นส้มตำอันดับต้น ๆ ของตระกูลส้มตำ โดยเฉพาะภาคอีสานเรียกว่าเป็นอาหารหลักเลยก็ยังได้ มีมะละกอดิบเป็นวัตถุหลัก เน้นรสชาติเค็มนำ นัวน้ำปลาร้า เพิ่มเติมความกลมกล่อมด้วยผงชูรส ตำลาวจะแตกต่างกันไปตามสูตรของแต่ละท้องถิ่น บ้างก็ใส่มะกอกให้ได้กลิ่นหอม ใส่กระถินเพิ่มความมัน หรือใส่กุ้งฝอยคั่วเพื่อช่วยลดความเผ็ด ยิ่งถ้าเป็นสูตรส้มตำลาวแบบดั้งเดิมจะไม่ใส่น้ำตาลเลยด้วยซ้ำ

วัตถุดิบส้มตำลาว

  • เส้นมะละกอสับ
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด (พริกแห้ง เพิ่มความหอม และรสเผ็ดร้อนมากขึ้น)
  • มะนาว
  • กระเทียม
  • มะกอก
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงชูรส
  • เมล็ดกระถิน (สำหรับโรยหน้า)
  • แคบหมู และผักบุ้ง (สำหรับกินแกล้ม)

วิธีทำส้มตำลาว

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศ มะกอก ตามลงตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงชูรส และมะนาว
  • จากนั้นใส่เส้นมะละกอสับ ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ ตักใส่จานโรยด้วยเมล็ดกระถิน เสิร์ฟคู่กับแคบหมู และผักบุ้ง

ตำซั่ว

ส้มตำปูปลาร้า ที่ใส่เส้นมะละกอเล็กน้อยพอได้เทกซ์เจอร์ เพิ่มความแซ่บด้วยเส้นขนมจีนให้ได้อารมณ์ดูดเส้นเคล้าความนัวของน้ำปลาร้า โดย “ตำซั่ว” นั้นเกิดขึ้นจากการกินขนมจีนเปล่า ๆ คู่กับส้มตำก่อน จากนั้นได้มีการนำเอาเส้นมะละกอมาคลุกเคล้ากับเส้นขนมจีนในครก จึงเกิดความนิยมอย่างมากจนมีการทำขาย ตั้งแต่นั้นจึงรู้จักกันในชื่อของ “ตำซั่ว”

วัตถุดิบส้มตำซั่ว

  • เส้นมะละกอสับ
  • เส้นขนมจีน
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด
  • กระเทียม
  • มะนาว
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงชูรส
  • ปูนา

วิธีทำส้มตำซั่ว

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศตามลงตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงชูรส มะนาว และปูนา
  • ใส่เส้นมะละกอสับ และขนมจีน ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ จากนั้นตักใส่จานเลยจ้า

ตำปูปลาร้า

“ตำปูปลาร้า” จัดว่าฮอตฮิตไม่เคยตกยุค เพราะคนส่วนใหญ่มักจะสั่งเวลาไปร้านอาหารอีสาน นัวคูณสองทั้งใส่ปลาร้า และปูนา เครื่องส้มตำ และรสชาติใกล้เคียงกับส้มตำลาว เพียงแค่ใส่ปูนาเพิ่มเข้าไป

วัตถุดิบส้มตำปูปลาร้า

  • เส้นมะละกอสับ
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด (พริกแห้ง เพิ่มความหอมและรสเผ็ดร้อนมากขึ้น)
  • มะนาว
  • กระเทียม
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงชูรส
  • ปูนา

วิธีทำส้มตำปูปลาร้า

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศตามลงตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงชูรส มะนาว และปูนา
  • ใส่เส้นมะละกอสับ ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ จากนั้นตักใส่จาน ได้แล้วส้มตำปู ปลาร้า สุดฟินเลยจ้า

ตำแตง

“ตำแตง” สูตรอีสานดั้งเดิมจะใช้เป็นแตงไทยอ่อน เพราะมีเนื้อแน่นกรอบได้อารมณ์ในการเคี้ยว แต่ปัจจุบันจะใช้แตงร้านแทนเพราะหาซื้อง่าย มีเนื้อกรอบฉ่ำแต่เนื้อเละง่าย ตำแตงส่วนมากจึงมีน้ำเยอะ ที่สำคัญ “ตำแตง” ไม่ควรพลาดที่จะกินคู่กับไข่ต้ม ยิ่งถ้าเป็นไข่ต้มยางมะตูมล่ะก็ยิ่งฟิน

วัตถุดิบส้มตำแตง

  • แตงร้านสับ
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด (พริกแห้ง เพิ่มความหอมและรสเผ็ดร้อนมากขึ้น)
  • มะนาว
  • กระเทียม
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงชูรส
  • ไข่ต้มหรือไข่ต้มยางมะตูม (สำหรับกินแกล้ม)

วิธีทำส้มตำแตง

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศตามลงตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ร้า น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงชูรส และมะนาว
  • ใส่แตงร้านสับ ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ จากนั้นตักใส่จาน เสิร์ฟคู่กับไข่ต้มหรือไข่ต้มยางมะตูม

ตำถั่วฝักยาว

“ตำถั่วฝักยาว” ภาษาอีสานเรียกว่า “ตำหมากถั่ว” คือส้มตำที่ใช้ถั่วฝักยาวเป็นหนึ่งในเครื่องส้มตำแทนมะละกอดิบ เพราะจะได้รสหวาน กรอบจากถั่วฝักยาว ตามด้วยรสนัวครบรสจากน้ำปลาร้าและเครื่องปรุง “ตำถั่วฝักยาว” มักกินคู่กับปลาย่างเกลือหรือปลาดุกย่างร้อน ๆ ไม่ลองไม่รู้ว่ามันช่างเข้ากันเสียจริง ๆ

วัตถุดิบส้มตำถั่วฝักยาว

  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด (พริกแห้ง เพิ่มความหอมและรสเผ็ดร้อนมากขึ้น)
  • มะนาว
  • กระเทียม
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงชูรส
  • ปลาดุกย่าง (สำหรับกินแกล้ม)

วิธีทำส้มตำถั่วฝักยาว

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ ตามด้วยถั่วฝักยาวหั่นท่อนตำให้พอหยาบ ต่อด้วยฝานมะเขือเทศตามลงตำให้พอเข้ากัน
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงชูรส และมะนาว ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ จากนั้นตักใส่จาน เสิร์ฟคู่กับปลาย่างเกลือหรือปลาดุกย่าง

ตำไทย

“ตำไทย” ส้มตำจานโปรดสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นปลาร้า และความนัวแบบขีดสุด เพราะตำไทยจะไม่ใส่ปู และปลาร้าเลยแม้แต่นิด มีเส้นมะละกอเป็นวัตถุดิบหลัก กรุบกรอบด้วยถั่วฝักยาว ใส่กุ้งแห้ง และถั่วลิสงคั่วเพิ่มความมัน มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เค็มตามมาติด ๆ

วัตถุดิบส้มตำไทย

  • เส้นมะละกอสับ
  • ถั่วฝักยาว
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด
  • มะนาว
  • กระเทียม
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลปี๊บ
  • กุ้งแห้ง

วิธีทำส้มตำไทย

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศ ถั่วฝักยาวตามลงตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และมะนาว
  • ใส่เส้นมะละกอสับ ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ ตักใส่จานโรยด้วยกุ้งแห้งและถั่วลิสง

ตำป่า

ส้มตำปูปลาร้าธรรมดามันเบสิกไป ต้องลอง “ตำป่า” ซึ่งส้มตำป่าที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ “ตำป่า” จากจังหวัดมหาสารคาม ส้มตำใส่น้ำปลาร้ารสชาตินัวครบรส เป็นส้มตำซั่วเวอร์ชั่นกลายร่าง อัปสกิลเพิ่มเครื่องจัดเต็ม อย่างผักกระเฉด หน่อไม้ต้ม หอยโข่ง ปลากรอบ ผักกาดดอง และถั่วงอก บางท้องถิ่นใส่เครื่องที่มีจนล้นครกเลยทีเดียว

วัตถุดิบส้มตำป่า

  • เส้นมะละกอสับ
  • ปูนา
  • หอยโข่งต้มสุก
  • ผักกาดดอง
  • หน่อไม้ต้มสุก
  • ผักกระเฉด
  • มะเขือเปราะ
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด
  • มะนาว
  • กระเทียม
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงชูรส

วิธีทำส้มตำป่า

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศ มะเขือเปราะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงชูรส มะนาว และปูนา
  • ใส่หอยโข่ง ผักกาดดอง หน่อไม้ต้มสุก ผักกระเฉด เส้นมะละกอสับและขนมจีน ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติ และปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ

ตำเส้นมาม่า

“ตำเส้นมาม่า” ซู้ดเส้นให้สะใจ ส้มตำยุคใหม่ที่พลิกแพลงดัดแปลงเอาเส้นมาม่ามาเป็นวัตถุดิบหลักแทนการใช้มะละกอแบบเดิม ๆ จัดกว่านัวครบรสไม่แพ้เส้นมะละกอเลยทีเดียว

วัตถุดิบส้มตำมาม่า

  • เส้นมาม่า
  • ถั่วฝักยาว
  • มะเขือเปราะ
  • ผักชีใบเลื่อย
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด
  • มะนาว
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลปี๊บ
  • ผงชูรส

วิธีทำส้มตำเส้นมาม่า

  • ใส่พริกกับกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศ มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว และผักชีใบเลื่อยตามลงตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผงชูรส และมะนาว
  • ใส่เส้นมาม่าลวก ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ ตักใส่จานโรยด้วยกุ้งแห้ง และถั่วลิสง

ตำผลไม้

“ตำผลไม้” สลัดผลไม้น้ำใสสไตล์ไทย ใส่ผลไม้หลากหลายชนิดได้ตามต้องการ เน้นรสเปรี้ยว หวาน จากตัวผลไม้ อย่าง แอปเปิ้ล องุ่น ฝรั่ง แก้วมังกร เพิ่มมูลค่าด้วยสตรอว์เบอร์รีและกีวี เสริมทัพด้วยข้าวโพดหวานและมะเขือเทศให้ได้รสกลมกล่อม

วัตถุดิบส้มตำผลไม้

  • มะม่วงสับ
  • ข้าวโพดหวาน
  • สตรอว์เบอร์รี
  • กีวี
  • แอปเปิ้ลแดง
  • แอปเปิ้ลเขียว
  • องุ่น
  • แก้วมังกร
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด
  • มะนาว
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลปี๊บ

วิธีทำส้มตำผลไม้

  • ใส่พริกสดลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศลงไปตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และมะนาว
  • ใส่มะม่วงสับ ข้าวโพดหวาน สตรอว์เบอร์รี กีวี แอปเปิ้ล องุ่น และแก้วมังกร ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติ และปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ

ตำทะเล

“ตำทะเล” จัดเครื่องซีฟู้ดมาในจานที่เคล้าน้ำส้มตำทั้ง กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ ลูกชิ้นปลา ได้รสกลมกล่อมทั้งเปรี้ยว หวาน และเค็มด้วยปลาร้า น้ำปลา ไม่ว่ากิน “ตำทะเล” แบบสดหรือลวกสุกก็แซ่บได้ใจทั้งนั้น

วัตถุดิบส้มตำทะเล

  • ถั่วฝักยาว
  • ปลาหมึกกล้วย
  • หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
  • กุ้งกุลาดำ
  • ลูกชิ้นปลา
  • มะเขือเทศ
  • พริกสด
  • มะนาว
  • กระเทียม
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงชูรส
  • กุ้งแห้ง

วิธีทำส้มตำทะเล

  • ใส่พริกสดและกระเทียมลงในครกตำพอหยาบ จากนั้นฝานมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ลงไปตำให้พอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ผงชูรส และมะนาว
  • ใส่มะละกอสับ ปลาหมึกกล้วย หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งกุลาดำ กุ้งแห้ง และลูกชิ้นปลา ลวกสุก ตำเคล้าให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ

ที่มา: wongnai [2]

2. recipe.ajinomoto

รวมสูตร ส้มตำ จาก เว็บไซต์ recipe.ajinomoto ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

ส่วนประกอบ

  • มะละกอดิบขูดเส้น1 100 กรัม
  • แครอทขูดเส้น 20 กรัม
  • กระเทียมไทย 5 กลีบ
  • พริกขี้หนู 1 เม็ด
  • มะเขือเทศสีดา 1 ลูก
  • ถั่วฝักยาว 1 ฝัก
  • น้ำปลา(low sodium) 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1¼ ช้อนโต๊ะ
  • อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส ¼ ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งแห้ง 4 กรัม
  • ถั่วลิสง 20 ใส่กระเทียม พริกขี้หนูบุบพอแตกกรัม

วิธีทำ

เตรียมวัตถุดิบ

  • สูตรส้มตำไทยที่อร่อย มีรสชาติที่เข้มข้น สดชื่น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เริ่มต้นจากการเตรียมวัตถุดิบคุณภาพดี ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด ประกอบด้วย มะละกอดิบขูดเป็นเส้น, มะเขือเทศลูกเล็กผ่าครึ่ง, ถั่วฝักยาวหั่นท่อน, กระเทียม, พริกขี้หนูสด (ปรับตามความเผ็ดที่ชอบ), กุ้งแห้ง, ถั่วลิสงคั่ว
  • เคล็ดลับ: เลือกมะละกอที่แก่จัดแต่ยังไม่สุก เนื้อแน่น สีส้มอ่อน จะได้รสชาติที่กรอบและไม่หวานจนเกินไป การเลือกมะละกอเป็นหัวใจสำคัญของส้มตำไทยที่อร่อย

เตรียมเครื่องปรุง

  • เตรียมเครื่องปรุงให้พร้อมก่อนเริ่มตำ ประกอบด้วย น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา, อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส, น้ำมะนาว
  • เคล็ดลับ: การใช้อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส จะช่วยเพิ่มรสชาติอูมามิ ทำให้ส้มตำไทยมีรสกลมกล่อมมากขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มเกลือหรือน้ำปลามากเกินไป

เริ่มตำส้มตำ

  • วิธีทำส้มตำไทยเริ่มจากการใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงในครกไม้ ใช้สากตำให้พอแตก อย่าตำจนละเอียดเกินไป
  • เคล็ดลับ: หากต้องการลดความเผ็ด ให้เอาเมล็ดพริกออกก่อนตำ หรือลดจำนวนพริกลง สำหรับผู้ที่ชอบเผ็ดมาก สามารถเพิ่มจำนวนพริกหรือใช้พริกขี้หนูแห้งร่วมด้วย

เพิ่มส่วนผสมและปรุงรส

  • ใส่มะเขือเทศและถั่วฝักยาวลงไป ตำเบา ๆ ให้พอช้ำ จากนั้นเริ่มปรุงรสโดยใส่อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส น้ำปลา น้ำตาลปี๊บและน้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่กุ้งแห้งลงไป
  • เคล็ดลับ: ควรชิมรสชาติหลังจากปรุงรสแล้ว และปรับตามความชอบ สูตรส้มตำไทยที่ดีควรมีความสมดุลของรสเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด

ใส่มะละกอและคลุกเคล้า

  • ใส่มะละกอขูดลงไปเป็นอย่างสุดท้าย เคล้าให้เข้ากันอีกครั้งเบา ๆ ด้วยช้อนไม้หรือมือ
  • เคล็ดลับ: หากชอบส้มตำไทยแบบน้ำน้อย ให้บีบน้ำมะละกอออกเล็กน้อยก่อนใส่ลงครก แต่ถ้าชอบแบบน้ำมาก สามารถเพิ่มน้ำมะนาวหรือน้ำปลาได้

จัดเสิร์ฟ

  • ตักส้มตำใส่จาน โรยด้วยถั่วลิสงคั่วตามชอบ ถั่วลิสงจะเพิ่มความกรอบและรสชาติมันๆ ให้กับส้มตำไทย สามารถเพิ่มผักสดเคียง เช่น กะหล่ำปลี แตงกวา ถั่วฝักยาวดิบ เพื่อเพิ่มความกรอบและรสชาติที่หลากหลาย
  • เคล็ดลับ: เสิร์ฟส้มตำคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ และไก่ย่างหรือหมูย่าง จะได้รสชาติแบบอีสานแท้ๆ การรับประทานส้มตำไทยกับข้าวเหนียวจะช่วยลดความเผ็ดและทำให้อิ่มท้องมากขึ้น

ที่มา: recipe.ajinomoto [3]

3. foodpanda

รวมสูตร ส้มตำ จาก เว็บไซต์ foodpanda ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

วัตถุดิบ

  • มะละกอดิบ 1/2 ลูก
  • กระเทียม 4 กลีบ
  • พริกขี้หนู 5 เม็ด
  • มะเขือเทศ 3 ลูก
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 100 กรัม
  • กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วลิสง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 1 ลูก
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาหาร

  • ครกไม้หรือครกดินเผา
  • สากไม้
  • ทัพพี
  • มีด

ขั้นตอนการทำ

  • นำมะละกอดิบที่เตรียมไว้ปอกเปลือก สับและฝานออกให้มีลักษณะเป็นเส้น ๆ
  • ตำพริกกับกระเทียมพอหยาบ ตามด้วยฝานมะเขือเทศตามลงไป
  • หั่นถั่วฝักยาวเป็นท่อน ๆ ใส่ลงไปในครก
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และบีบมะนาวตามลงไป คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  • ใส่มะละกอดิบที่สับเป็นเส้น ๆ ลงไป ตำคลุกเคล้าให้เข้ากันกับน้ำส้มตำ ชิมรสและปรุงแต่งเพิ่มเติมได้ตามชอบ
  • ตักใส่จานโรยกุ้งแห้ง และถั่วลิสงเป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ

ที่มา: foodpanda [4]

4. thairath

รวมสูตร ส้มตำ จาก เว็บไซต์ thairath ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

สูตรส้มตำไทย-ปูปลาร้า ใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง?

  • มะละกอดิบสับ
  • พริกเขียวแดง
  • พริกขี้หนูแห้ง
  • กระเทียม
  • มะเขือเทศสีดา
  • ถั่วฝักยาว
  • น้ำปลาร้า
  • ปูเค็ม ปูนา หรือ ปูจืด
  • น้ำส้มมะขาม
  • มะนาว
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • ถั่วลิสง
  • น้ำปลา
  • กุ้งแห้ง

สูตรส้มตำไทย รสชาตินัว พร้อมวิธีทำแบบง่ายๆ

  • ใส่กระเทียมและพริก ลงในครก ตำให้แหลกพอประมาณ
  • หั่นถั่วฝักยาวใส่ลงไป ตามด้วยมะเขือเทศ
  • เพิ่มน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว เพื่อเพิ่มรสชาติให้นัว
  • ตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • หลังจากนั้นใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสง ตำให้ถั่วลิสงแตกเล็กน้อย
  • ใส่มะละกอดิบลงไป
  • คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยถั่วลิสงอีกรอบ พร้อมตักเสิร์ฟได้เลย

สูตรส้มตำปูปลาร้า แซ่บๆ ทำขายได้เลย

  • ใส่พริกสดและพริกแห้งลงไปในครก ตำพอแหลก เพิ่มความแซ่บจัดจ้าน
  • หั่นถั่วฝักยาวใส่ลงไป
  • ใส่ปูเค็ม ปูนา หรือ ปูจืดลงไป
  • เพิ่มน้ำปลา น้ำส้มมะขาม บีบมะนาว และ น้ำตาลมะพร้าวเล็กน้อย
  • คลุกเคล้าส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน
  • ใส่มะละกอดิบลงไป ตำคลุกให้เข้ากัน
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า
  • ตักใส่จาน ยกเสิร์ฟได้เลย

ที่มา: thairath [5]

5. krua

รวมสูตร ส้มตำ จาก เว็บไซต์ krua ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

สูตรและวิธีทำตำซั่ว

ตำซั่ว เน้นใส่มะละกอแต่น้อย อร่อยด้วยเส้นขนมจีน เดี๋ยวนี้มีให้เลือกทั้ง เส้นหมัก เส้นสด จนถึงขนมจีนเส้นแห้ง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจานยอดนิยมของชาวอีสาน เครื่องตำซั่วใส่อะไรก็ได้ตามที่มี ทำให้จานตำซั่วแต่ละถิ่นแต่ละร้านนั้นหลากหลาย แต่ที่ขาดไม่ได้และเป็นหัวใจในจานตำซั่วคือเส้นขนมจีน

วัตถุดิบตำซั่ว

  • พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด
  • พริกอีสาน 5 เม็ด
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1 นิ้ว 1 ฝัก
  • มะเขือส้ม 5 ลูก
  • มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะกอกป่าหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะเขือเปราะหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะเขือเหลือง 1 ลูก
  • ปูนานึ่ง 1 ตัว
  • มะละกอสับเส้นยาว ½ ถ้วย
  • น้ำปลาร้าปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • ขนมจีน 1 จับ
  • กุ้งฝอยคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • เมล็ดกระถิน 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำปลาร้าปรุงรส

  • ปลาร้าปลากระดี่ (น้ำ+เนื้อ) 2 ถ้วย
  • น้ำกระเทียมดอง ¼ ถ้วย
  • กระเทียมดองบุบ 2 หัว
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ฝักกระถินแก่ๆ 10 ฝัก

วิธีทำ

  • ใส่ปลาร้าปลากระดี่ น้ำกระเทียมดอง กระเทียมดอง กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และฝักกระถินลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน คนให้กะปิและน้ำตาลปี๊บละลาย เคี่ยวต่อประมาณ 5 นาที เนื้อปลาร้าจะยุ่ยเหลือแต่ก้าง ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น นำ ไปกรองด้วยกระชอน หากเนื้อปลาไม่ยุ่ย ให้ใช้ทัพพีกดเนื้อปลาบนกระชอนขณะกรองพัก ให้ เย็นสนิท เทใส่ขวด ปิด ฝาให้สนิท เก็บ ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 3 เดือน
  • ตำพริกขี้หนูแห้งพอแหลก ใส่พริกอีสานตำให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่น้ำตาลทราย และถั่วฝักยาว ตำเบาๆให้เข้ากันพอบุบ ใส่มะเขือส้ม มะเขือเทศสีดา มะกอกป่า มะเขือเปราะ และมะเขือเหลือง ตำเคล้าให้เข้ากัน ใส่ปูนา ตำเบาๆให้เข้ากันพอแหลก ใส่เส้นมะละกอ น้ำปลาร้าปรุงรส น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาว ตำเคล้าเบาๆให้เข้ากัน ใส่เส้นขนมจีน ตำเคล้าเบาๆให้เข้ากัน (ระวังขนมจีนเละ) ตักใส่จาน โรยกุ้งฝอยและเมล็ดกระถิน เสิร์ฟพร้อมผักสด

สูตรและวิธีทำตำไทย

ตำไทย คือส้มตำที่กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส้มตำจานแรกของใครหลายคนก็เริ่มจากตำไทยนี่ละ รสชาติออกไปทางสดชื่นเปรี้ยว หวาน เค็ม หอมถั่วลิสงคั่วและกุ้งแห้ง หัวใจหลักอยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพดี ความหวานจากน้ำตาลปี๊บที่ให้รสหวานนวลไม่แหลม ถั่วกับกุ้งแห้งต้องสดใหม่

วัตถุดิบตำไทย

  • พริกขี้หนูสวน 5 เม็ด
  • กระเทียมไทยแกะเปลือก 5 กลีบ
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 1 ฝัก
  • มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 3 ลูก
  • น้ำส้มตำ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะละกอสับเส้นยาว 1½ ถ้วย
  • กุ้งแห้งเนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำส้มตำ (ปริมาณ 1 ถ้วย)

  • น้ำปลา ½ ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • เทน้ำปลาใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อนพอเดือด ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย คนเบาๆ พอให้น้ำตาลละลาย เคี่ยวประมาณ 10 นาที ปิดไฟยกลง พักให้เย็น
  • ตำพริกขี้หนูสวนและกระเทียมไทยเข้าด้วยกันพอแตก ใส่ถั่วฝักยาว ตำพอให้ถั่วบุบ ใส่มะเขือเทศสีดา ตำเบาๆ พอเข้ากัน
  • ใส่น้ำส้มตำและน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเปรี้ยวเค็ม หวาน เผ็ด ใส่เส้นมะละกอ กุ้งแห้งเนื้อ และถั่วลิสงคั่ว ตำเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสด

หมายเหตุ: น้ำปลาตั้งไฟให้เดือดก่อนใส่น้ำมะขามเปียกและน้ำตาล เพื่อให้น้ำปลาสุกหอม ไม่มีกลิ่นคาวน้ำส้มตำ สูตรนี้ไม่ใส่น้ำมะนาวลงไปพร้อมกันเพราะหากใส่น้ำมะนาวลงไปพร้อมกัน น้ำมะนาวจะมีรสขมไม่มีกลิ่นหอม ควรใส่น้ำมะนาวในขั้นตอนการ

สูตรและวิธีทำตำปูปลาร้า

ตำปูปลาร้า สูตรนี้เป็นตำอย่างรสอีสาน เน้นรสเค็มนัวเผ็ด เปรี้ยวหวานปลายลิ้นจากวัตถุดิบธรรมชาติเป็นหลัก นอกจากปลาร้าดีจึงมีวัตถุดิบปรุงรสเปรี้ยวหวานที่เพิ่มเข้ามาอย่างมะกอกป่า มะเขือส้ม พริกอีสาน ที่ผสานให้รสกลมกล่อมนัวขึ้น

วัตถุดิบตำปูปลาร้า

  • พริกขี้หนูแห้ง 4 เม็ด
  • พริกอีสาน 5 เม็ด
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1 นิ้ว 1 ฝัก
  • มะเขือส้ม 5 ลูก
  • มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะกอกป่าหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะเขือเปราะหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะเขือเหลืองหั่นชิ้น 1 ลูก
  • ปูเค็มหักเล็บแกะกระดอง 1 ตัว
  • มะละกอสับเส้นยาว 1½ ถ้วย
  • น้ำปลาร้าปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนชา

ส่วนผสมน้ำปลาร้าปรุงรส (ปริมาณ 1 1/2 ถ้วย)

  • ปลาร้าปลากระดี่(น้ำ+เนื้อ) 2 ถ้วย
  • น้ำกระเทียมดอง ¼ ถ้วย
  • กระเทียมดองบุบ 2 หัว
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ฝักกระถินแก่ๆ 10 ฝัก

วิธีทำ

  • ใส่ปลาร้าปลากระดี่ น้ำกระเทียมดอง กระเทียมดอง กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และฝักกระถินลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน คนให้กะปิและน้ำตาลปี๊บละลาย เคี่ยวต่อประมาณ 5นาที เนื้อปลาร้าจะยุ่ยเหลือแต่ก้าง ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น นำ ไปกรองด้วยกระชอน หากเนื้อปลาไม่ยุ่ย ให้ใช้ทัพพีกดเนื้อปลาบนกระชอนขณะกรองพัก ให้ เย็นสนิท เทใส่ขวด ปิด ฝาให้สนิท เก็บ ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 3 เดือน
  • ตำพริกขี้หนูแห้งพอแหลก ใส่พริกอีสานตำให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่น้ำตาลทรายและถั่วฝักยาว ตำเบาๆพอบุบ ใส่มะเขือส้ม มะเขือเทศสีดา มะกอกป่า มะเขือเปราะ และมะเขือเหลืองตำให้เข้ากันพอบุบๆ ใส่ปูเค็ม ตำเบาๆให้เข้ากัน ใส่เส้นมะละกอ น้ำปลาร้าปรุงรส น้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาว ตำเบาๆ เคล้าให้เข้ากันอีกครั้งชิมรสให้ออกเผ็ด เค็ม นัว เปรี้ยวเล็กน้อย ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสด

หมายเหตุ: ใส่ฝักกระถินทำให้น้ำปลาร้าปรุงรสมีกลิ่น หอมและสีสวย (สีน้ำตาลแดง) ใส่ในส้มตำทำให้น้ำส้มตำสีสวยน่ากิน

สูตรตำปูและวิธีทำตำปู

ตำปู หัวใจของจานนี้อยู่ที่ปู จะได้รสเค็มนัวจากปูดองเค็ม ปูที่นิยมใช้ตำส้มตำมี 2 ชนิด คือปูนา (ปูน้ำจืด) กับปูแสม (ปูน้ำกร่อย) ควรเลือกซื้อปูที่ก้ามกระดองขาอยู่ครบ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า หรือมีน้ำสีคล้ำๆ ไหลออกมา หากปูเค็มมากจะมีเกล็ดเกลือขึ้นที่กระดองปู ไม่ควรซื้อ ลวกให้สุกหรือนึ่งก่อนนำมาตำได้เพื่อความปลอดภัย

วัตถุดิบตำปู

  • พริกขี้หนูแห้ง 3 เม็ด
  • พริกขี้หนูสวน 5 เม็ด
  • กระเทียมไทยแกะเปลือก 5 กลีบ
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1 นิ้ว 1 ฝัก
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
  • มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 2 ลูก
  • ปูเค็มหักเล็บแกะกระดอง 2 ตัว
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะละกอสับเส้นยาว 1½ ถ้วย

วิธีทำ

  • ตำพริกขี้หนูแห้งพอแตก ใส่พริกขี้หนูสวนและกระเทียมไทย ตำให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่ถั่วฝักยาวและน้ำตาลปี๊บ ตำให้เข้ากันพอบุบ ใส่มะเขือเทศสีดา และปูเค็ม ตำพอเข้ากัน
  • ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียก ตำเคล้าให้เข้ากัน และน้ำตาลละลาย ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด ใส่เส้นมะละกอตำเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักสด

สูตรตำข้าวโพด และวิธีทำตำข้าวโพด

ตำข้าวโพด เป็นเมนูโปรดของทุกวัย ได้รสเปรี้ยวหวานเค็ม 3 รส เพิ่มเผ็ดสักหน่อยพอเป็นสีสัน เทกเจอร์ของเมล็ดข้าวโพดทำให้กินเพลิน กินสนุกปาก เลือกใช้ข้าวโพดหวาน (sweet corn) เพราะมีรสหวานมัน เมล็ดเหนียวนุ่มกำลังดี เลือกฝักสดๆ เปลือกสีเขียว มีเส้นใยหุ้มฝัก เมล็ดเรียงสวย

วัตถุดิบตำข้าวโพด

  • พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ 3 เม็ด
  • กระเทียมไทยแกะเปลือก 5 กลีบ
  • น้ำตาลปิ๊บ 2 ช้อนชา
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1 นิ้ว 1 ฝัก
  • มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 3 ลูก
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวโพดต้มสุกฝาน 1½ ถ้วย
  • กุ้งแห้งเนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่เค็มหั่นชิ้น 1 ลูก

วิธีทำ

  • ตำพริกขี้หนูแห้งพอแตก ใส่พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่และกระเทียมไทย ตำให้เข้ากันอีกครั้งใส่น้ำตาลปี๊บ และถั่วฝักยาว ตำพอบุบๆ ใส่มะเขือเทศสีดา น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียกตำเคล้าพอเข้ากันจนน้ำตาลละลาย ชิมรสให้ออกเปรี้ยวหวาน เค็ม ใส่ข้าวโพด กุ้งแห้งเนื้อ และถั่วลิสงคั่ว ตำเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่ไข่เค็ม ตำเคล้าให้เข้ากันเบาๆ ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสด

สูตรตำโคราช และวิธีทำตำโคราช

ตำโคราช ส้มตำลูกครึ่งไทย-ลาวที่ใส่เครื่องปรุงผสมระหว่างส้มตำไทยกับส้มตำลาว ทั้งกุ้งแห้ง ถั่วลิสง ปลาร้า และปู รสชาติจะมีความเปรี้ยว เผ็ด เค็มและหวาน ส่วนชื่อมาจากจังหวัดนครราชสีมาที่ตั้งอยู่ระหว่างไทยกับลาว จึงหยิบเอาชื่อมาตั้ง

วัตถุดิบตำโคราช

  • พริกขี้หนูแห้ง 3 เม็ด
  • พริกอีสาน 5 เม็ด
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1 นิ้ว 1 ฝัก
  • น้ำตาลปิ๊บ 2 ช้อนชา
  • ปูเค็มหักเล็บแกะกระดอง 1 ตัว
  • ถั่วลิสงคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
  • มะเขือส้ม 5 ลูก
  • มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 1 ลูก
  • น้ำปลาร้าปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะละกอสับเส้นยาว 1½ ถ้วย
  • กุ้งแห้งเนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำปลาร้าปรุงรส ปริมาณ 1 1/2 ถ้วย

  • ปลาร้าปลากระดี่ (น้ำ+เนื้อ) 2 ถ้วย
  • น้ำกระเทียมดอง ¼ ถ้วย
  • กระเทียมดองบุบ 2 หัว
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ฝักกระถินแก่ๆ 10 ฝัก

วิธีทำ

  • ใส่ปลาร้าปลากระดี่ น้ำกระเทียมดอง กระเทียมดอง กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และฝักกระถินลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน คนให้กะปิและน้ำตาลปี๊บละลาย เคี่ยวต่อประมาณ 5 นาที เนื้อปลาร้าจะยุ่ยเหลือแต่ก้าง ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น นำ ไปกรองด้วยกระชอน หากเนื้อปลาไม่ยุ่ย ให้ใช้ทัพพีกดเนื้อปลาบนกระชอนขณะกรองพักให้เย็นสนิทเทใส่ขวดปิด ฝาให้สนิทเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 3 เดือน
  • ตำพริกขี้หนูแห้งพอแตก ใส่พริกอีสาน ตำให้เข้ากันพอแตกใส่ถั่วฝักยาว ตำเบาๆพอบุบ ใส่น้ำตาลปี๊บ ปูเค็มและถั่วลิสงคั่ว ตำเคล้าเบาๆให้เข้ากัน ใส่มะเขือส้ม และมะเขือเทศสีดา ตำเบาๆพอแหลก ใส่น้ำปลาร้าปรุงรส น้ำปลา น้ำมะนาวและน้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเค็ม เปรี้ยว หวาน เผ็ด ใส่เส้นมะละกอและกุ้งแห้งเนื้อ ตำเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสด

สูตรตำป่า และวิธีทำตำป่า

ตำป่า คือตำปูปลาร้าที่ใส่เครื่องสารพัดอย่างตามที่มี ใส่ทั้งหน่อไม้ต้มหรือหน่อไม้ดอง ปลากรอบ เมล็ดกระถิ่น ผักกระเฉด ผักกาดดอง หอยนาต้ม อื่นๆ แล้วแต่ร้าน ใส่แบบจัดหนักจัดเต็ม

วัตถุดิบตำป่า

  • พริกขี้หนูแห้ง 3 เม็ด
  • พริกอีสาน 5 เม็ด
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1 นิ้ว 1 ฝัก
  • มะเขือส้ม 5 ลูก
  • มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะกอกป่าหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะเขือเปราะหั่นชิ้น 1 ลูก
  • มะเขือเหลืองหั่นชิ้น 1 ลูก
  • ปูเค็มหักเล็บแกะกระดอง 1 ตัว
  • มะละกอสับเส้นยาว ½ ถ้วย
  • น้ำปลาร้าปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • หน่อไม้ดองหั่นชิ้น 10 ชิ้น
  • ผักกาดดองหั่นชิ้น 10 ชิ้น
  • หอยนาต้ม 10 ชิ้น
  • ผัดกระเฉดลอกเยื่อเด็ดใช้เฉพาะยอดอ่อน ¼ ถ้วย
  • ผักชีฝรั่งซอย 3 ใบ
  • กุ้งฝอยคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ขนมจีน 1 จับ
  • เมล็ดกระถิน 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลาร้าปรุงรส (ปริมาณ 1 1/2 ถ้วย)

  • ปลาร้าปลากระดี่ (น้ำ+เนื้อ) 2 ถ้วย
  • น้ำกระเทียมดอง ¼ ถ้วย
  • กระเทียมดองบุบ 2 หัว
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ฝักกระถินแก่ๆ 10 ฝัก

วิธีทำ

  • ใส่ปลาร้าปลากระดี่ น้ำกระเทียมดอง กระเทียมดอง กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และฝักกระถินลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน คนให้กะปิและน้ำตาลปี๊บละลาย เคี่ยวต่อประมาณ 5นาที เนื้อปลาร้าจะยุ่ยเหลือแต่ก้าง ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น นำ ไปกรองด้วยกระชอน หากเนื้อปลาไม่ยุ่ย ให้ใช้ทัพพีกดเนื้อปลาบนกระชอนขณะกรองพัก ให้ เย็นสนิท เทใส่ขวด ปิด ฝาให้สนิท เก็บ ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 3 เดือน
  • ตำพริกขี้หนูแห้งพอแหลก ใส่พริกอีสาน ตำให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่น้ำตาลทรายและถั่วฝักยาวตำเบาๆพอบุบ ใส่มะเขือส้ม มะเขือเทศสีดา มะกอกป่า มะเขือเปราะ และมะเขือเหลือง ตำเคล้าให้เข้ากัน ใส่ปูเค็ม ตำเบาๆให้เข้ากันพอแหลกใส่เส้นมะละกอ น้ำปลาร้าปรุงรส น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียก ตำเคล้าเบาๆให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเผ็ด เค็มนัว เปรี้ยวเล็กน้อย ใส่หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง หอยนาต้ม ผักกระเฉด ผักชีฝรั่งซอย กุ้งฝอยคั่วและขนมจีน ตำเคล้าให้เข้ากันเบาๆอีกครั้งให้น้ำปรุงรสซึมเข้าไปในผักต่างๆตักใส่จาน โรยเมล็ดกระถิน เสิร์ฟพร้อมผักสด

หมายเหตุ: ใส่ฝักกระถินทำให้น้ำปลาร้าปรุงรสมีกลิ่น หอมและสีสวย (สีน้ำตาลแดง) ใส่ในส้มตำทำให้น้ำส้มตำ สีสวยน่ากิน

สูตรตำหลวงพระบาง และวิธีทำตำหลวงพระบาง

ตำหลวงพระบาง ส้มตำรสแซ่บนัวจากประเทศลาว ความพิเศษอยู่ที่เอามะละกอดิบมาสไลซ์เป็นแผ่นบาง เพิ่มความกรุบกรอบด้วยมะเขือตอแหล รสชาติเค็มนำตามด้วยเปรี้ยวและเผ็ด ถือเป็นส้มตำที่อร่อยและมีเอกลักษณ์สุดๆ

วัตถุดิบตำหลวงพระบาง

  • พริกอีสาน 5 เม็ด
  • กะปิย่างไฟพอหอม 1 ช้อนชา
  • น้ำปู๋ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลาร้าปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะเขือส้ม 5 ลูก
  • มะเขือม่วงกลม 5 ลูก
  • เส้นมะละกอฝานเป็นแผ่น 1½ ถ้วย

ส่วนผสมน้ำปลาร้าปรุงรส (ปริมาณ 1 1/2 ถ้วย)

  • ปลาร้าปลากระดี่ (น้ำ+เนื้อ) 2 ถ้วย
  • น้ำกระเทียมดอง ¼ ถ้วย
  • กระเทียมดองบุบ 2 หัว
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ฝักกระถินแก่ๆ 10 ฝัก

วิธีทำ

  • ใส่ปลาร้าปลากระดี่ น้ำกระเทียมดอง กระเทียมดอง กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และฝักกระถินลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน คนให้กะปิและน้ำตาลปี๊บละลาย เคี่ยวต่อประมาณ 5นาที เนื้อปลาร้าจะยุ่ยเหลือแต่ก้าง ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น นำ ไปกรองด้วยกระชอน หากเนื้อปลาไม่ยุ่ย ให้ใช้ทัพพีกดเนื้อปลาบนกระชอนขณะกรองพัก ให้ เย็นสนิท เทใส่ขวด ปิด ฝาให้สนิท เก็บ ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 3 เดือน

    ตำพริกอีสานพอแหลกใส่กะปิ น้ำปู๋ น้ำปลาร้า ปรุงรส น้ำตาลทราย และน้ำมะนาวคนให้เข้ากันน้ำตาลละลายชิมรสให้ออกเผ็ด เค็ม เปรี้ยว ใส่มะเขือส้ม มะเขือม่วงกลม ตำพอให้มะเขือบุบใส่เส้นมะละกอตำเคล้าให้เข้ากันและน้ำปรุงรสซึมเข้าไปในเส้นมะละกอ ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักสด

หมายเหตุ: ใส่ฝักกระถินทำให้น้ำปลาร้าปรุงรสมีกลิ่นหอมและสีสวย (สีน้ำตาลแดง) ใส่ในส้มตำทำให้น้ำส้มตำ สีสวยน่ากิน

สูตรตำแตง และวิธีทำตำแตง

ตำแตง รสนัวแซ่บ ใส่น้ำปลาร้า พริกอีสาน มะเขือส้ม กุ้งฝอยคั่ว ตำขลั่กๆ ให้เข้ากัน นิยมใช้แตงร้าน มีลักษณะคล้ายแตงกวา แต่ผลใหญ่กว่ามาก สับเป็นเส้นยาวๆ นำมาทำตำแตง โดยเลือกผลอ่อน สีเขียว ผิวเรียบ ไม่เหี่ยว หรือผิวเป็นสีเหลือง

วัตถุดิบตำแตง

  • พริกขี้หนูแห้ง 3 เม็ด
  • พริกอีสาน 5 เม็ด
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • มะเขือส้ม 5 ลูก
  • แตงไทยอ่อนสับเส้นยาว 1½ ถ้วย
  • น้ำปลาร้าปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • กุ้งฝอยคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลาร้าปรุงรส (ปริมาณ 1 1/2 ถ้วย)

  • ปลาร้าปลากระดี่ (น้ำ+เนื้อ) 2 ถ้วย
  • น้ำกระเทียมดอง 1/4 ถ้วย
  • กระเทียมดองบุบ 2 หัว
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ฝักกระถินแก่ๆ 10 ฝัก

วิธีทำ

  • ใส่ปลาร้าปลากระดี่ น้ำกระเทียมดอง กระเทียมดอง กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และฝักกระถินลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน คนให้กะปิและน้ำตาลปี๊บละลาย เคี่ยวต่อประมาณ 5นาที เนื้อปลาร้าจะยุ่ยเหลือแต่ก้าง ปิดไฟ ยกลงพักให้เย็น นำ ไปกรองด้วยกระชอน หากเนื้อปลาไม่ยุ่ย ให้ใช้ทัพพีกดเนื้อปลาบนกระชอนขณะกรองพัก ให้ เย็นสนิท เทใส่ขวด ปิด ฝาให้สนิท เก็บ ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 3 เดือน
  • ตำพริกขี้หนูแห้งพอแหลก ใส่พริกอีสาน ตำให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่น้ำตาลทราย มะเขือส้ม ตำเบาๆให้เข้ากันพอแหลก ใส่แตงไทยอ่อน น้ำปลาร้าปรุงรส น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว และกุ้งฝอยคั่วตำเบาๆ เคล้าให้เข้ากันอีกครั้งเพื่อให้เครื่องปรุงรสซึมเข้าไปในเนื้อแตง ชิมรสให้ออกเผ็ดเค็ม นัว เปรี้ยวเล็กน้อย ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสด

หมายเหตุ: ใส่ฝักกระถินทำให้น้ำปลาร้าปรุงรสมีกลิ่น หอมและสีสวย (สีน้ำตาลแดง) ใส่ในส้มตำทำให้น้ำส้มตำ สีสวยน่ากิน

ที่มา: krua [6]

สรุป รวมสูตร ส้มตำ

รวมสูตร ส้มตำ

รวมสูตร ส้มตำ อาหารอีสาน สลัดของไทยที่ใช้มะละกอดิบเป็นวัตถุดิบหลัก เป็นเมนูที่ถือว่าสามารถทำได้อย่างง่าย แต่ก็ต้องอาศัยรสมือในการปรุง ที่จะทำให้ได้ส้มตำรสชาติอร่อย จัดจ้าน ซึ่งเมนูนี้ก็สามารถรังสรรค์เป็นเมนูอื่นยอดนิยมได้มากมาย จากการ รวมสูตร ส้มตำ เพิ่มวัตถุดิบอื่นๆ เข้ามาให้เป็นเมนูใหม่ เช่น ตำแตง ตำซั่ว เป็นต้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง