แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน เมนูเด็ดลำดับที่ 103

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน ของหวานไทย ที่อบอวลไปด้วยความหอมหวาน จากน้ำกะทิ และความนุ่มหนึบของแป้งบัวลอย เม็ดกลมสีสันสดใส ผสานกับไข่หวานที่ลวกอย่างพอดี ทำให้เข้ากันอย่างลงตัว โดยเมนูนี้มีคะแนนความง่ายในการทำอยู่ที่ 3 คะแนน

  • วัตถุดิบที่ใช้ทำบัวลอยไข่หวาน
  • วิธีการทำบัวลอยไข่หวาน

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน มีวิธีทำหลากหลายสูตร ดังนี้

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน ขนมหวานไทย ที่มาพร้อมเสน่ห์ของเม็ดแป้งเหนียวนุ่ม สีสันสดใส ผสานกับความหอมมันของน้ำกะทิ และความกลมกล่อมของไข่หวาน ที่ลอยเด่นอยู่ในถ้วย โดยเนื้อหาต่อไปนี้ได้เรา รวมสูตรการทำบัวลอยไข่หวาน จากแหล่งต่างๆ มาบอกต่อ ดังนี้

1. cooking.kapook

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน จาก เว็บไซต์ cooking.kapook ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

ส่วนผสม บัวลอยไข่หวาน

  • แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  • น้ำ 1/4 ถ้วย
  • เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
  • ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีเหลือง)
  • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
  • น้ำกะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • ไข่ไก่

วิธีทำบัวลอยไข่หวาน

  • แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำและเผือกนึ่งสุก, ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำและฟักทองนึ่งสุก, ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้
  • ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟ พอเดือดรีบปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้
  • ต้มน้ำในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
  • ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักขึ้นใส่ในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ

ที่มา: บัวลอยไข่หวาน สูตรขนมไทยในดวงใจ อร่อยไม่รู้ลืม [1]

2. food.trueid

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน จาก เว็บไซต์ food.trueid ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

วัตถุดิบ

  • แป้งข้าวเหนียว 3 ถ้วยตวง ( แบ่งเป็นถ้วยละ 1 ถ้วยตวง)
  • น้ำตาลทราย (ตามความชอบ ชอบหวานมากหรือหวานน้อย)
  • กะทิ 1/2 Kg.
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ดอกอัญชัน 5-10 ดอก
  • ใบเตย 10 ใบ
  • ฟักทอง 200 g.
  • น้ำเปล่า
  • ไข่เป็ด

วิธีทำ

  • นำฟักทองมาล้าง ปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก นำมาบดให้ละเอียดค่ะ
  • ระหว่างที่รอฟักทองสุก นำดอกอัญชันล้างแล้วนำไปแช่น้ำร้อนประมาณ 1 ถ้วยตวง จนสีออก จากนั้นกรองเอาแต่น้ำค่ะ
  • จากนั้นนำใบเตย 5 ใบ ล้างทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปตำหรือนำไปปั่น โดยใส่น้ำลงไปด้วยประมาณ 1 ถ้วยตวง (ถ้าเพื่อนๆใช้วิธีตำ ควรตำใบเตยให้แหลกแล้วค่อยใส่น้ำนะคะ จากนั้นเอาสากเน้นๆ ให้สีออก) จากนั้นกรองเอาแต่น้ำค่ะ
  • นำแป้งที่เตรียมไว้ 3 ถ้วยให้ผสมกับน้ำใบเตย น้ำอัญชัน และฟักทองค่ะ เวลาผสมแป้ง ค่อยๆ ใส่น้ำลงไปแล้วนวดแป้งไปเรื่อยๆ ไม่ให้แป้งเหลว หรือเป็นเม็ดค่ะ ปริมาณแป้งสามารถลดหรือเพิ่มขนาดตามความต้องการได้เลยนะคะ แค่เรานวดให้แป้งมีลักษณะคล้ายในรูปค่ะ ไม่แฉะหรือว่าแห้งเกินไปค่ะBua Loy
  • จากนั้นนำแป้งที่นวดได้ที่แล้ว มาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ (อย่าปั้นใหญ่มากนะคะ เวลาแป้งสุก แป้งจะขยายตัวใหญ่ขึ้นค่ะ)แล้วนำไปคลุกแป้งไว้ เพื่อไม่ให้เม็ดบัวลอยติดกันค่ะ น้องเปาจะใช่แป้งปั้นทีละถ้วยนะคะ ถ้วยไหนที่ยังไม่ปั้น เพื่อนๆ หาอะไรปิดแป้งไม่ให้โดนลมนะคะ เดี๋ยวแป้งจะแข็งBua Loy
  • ตั้งหม้อใส่น้ำต้มให้เดือด จากนั้นนำบัวลอยใส่ลงไป ค่อยไปคนไม่ให้แป้งจับตัวกัน รอจนเม็ดบัวลอย ลอยขึ้น ตักออก นำมาพักไว้ในน้ำอุณหภูมิปกติค่ะ เพราะจะทำให้เม็ดบัวลอยมีความหนึบอยู่ค่ะBua Loy
  • ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาล เกลือและใบเตย 5 ใบ มัดรวมกันใส่ไปในหม้อค่ะ พอน้ำตาลละลาย เพื่อนๆ ชิมแล้วปรุงรสชาติตามต้องการได้เลยค่ะ ชอบหวานมากหวานน้อยบัวลอยไข่หวาน
  • พอน้ำเดือด ตอกไข่เป็ดลงไปทีละฟองค่ะ ( อย่าตอกใกล้กันนะคะ เดี๋ยวไข่ติดกัน )ในรูปน้องเปาซื้อฟักทองมาเยอะ เลยหั่นเป็นเส้นเล็กๆ ใส่ลงไปด้วยค่ะ
  • จากนั้นนำบัวลอยตักใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ และไข่เป็ด เป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทานได้เลยจ้า

ที่มา: สูตร ขนมบัวลอยไข่หวาน ( Bua Loy ) ง่ายๆ [2]

3. openrice

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน จาก เว็บไซต์ openrice ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

ส่วนผสมและสัดส่วน

  • แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
  • ฟักทองนึ่ง 1 ถ้วย
  • เผือกนึ่ง 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำกะทิ 2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง (ต่อ 1 ถ้วยเสิร์ฟ)
  • น้ำเปล่า (สำหรับต้มตัวแป้งบัวลอย)
  • น้ำเย็น (สำหรับพักแป้งบัวลอยหลังต้ม)

วิธีปรุง

  • เริ่มทำส่วนของตัวแป้ง นำฟักทองและเผือกไปนึ่งจนสุก นำฟักทองมานวดกับแป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย ถ้าแห้งไปให้เติมน้ำได้ทีละนิด (ถ้าไม่แห้งไม่ต้องเติมนะคะมันจะเละปั้นไม่ได้ต้องเติมแป้งเพิ่ม) นวดจนแป้งเข้ากัน เผือกนึ่งก็ทำขั้นตอนเดียวกันนี้ค่ะ
  • ปั้นแป้งที่ได้เป็นก้อนกลมๆเล็กๆ (ส่วนตัวชอบปั้นลูกเล็กมากกว่าลูกใหญ่ เพราะกินแล้วได้รสชาติน้ำกะทิดีค่ะ) ปั้นเสร็จแล้วเตรียมเอาไปต้มเลยค่ะ
  • ต้มน้ำให้เดือด นำแป้งที่ปั้นไว้ใส่ลงไปต้ม รอจนสุก สังเกตได้จากการที่แป้งลอยขึ้นมา ช้อนแป้งขึ้นมาใส่ในน้ำเย็น จะทำให้เม็ดบัวลอยไม่เละและไม่ติดกัน
  • ต้มน้ำกะทิกับน้ำตาล จนน้ำตาลละลายหมดและกะทิเดือด ตอกไข่ใส่ลงไปในน้ำกะทิ พอไข่ขาวด้านนอกสุกก็ตักออกใส่ถ้วยไว้
  • ใส่เม็ดบัวลอยสำหรับ 1 คนลงในน้ำกะทิ ต้มซักพักตักใส่ถ้วยพร้อมน้ำกะทิ เอาไข่หวานที่ทำไว้มาใส่ด้วยกัน สำเร็จแล้วค่ะ

เคล็ดลับน่ารู้

คุณประโยชน์จากฟักทองและเผือก

  • ฟักทอง – มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี คาร์โบไฮเดรต และสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ เบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี
  • เผือก – เป็นอาหารที่บำรุงสุขภาพและให้พลังงานไปพร้อม ๆ กัน มีรสหวานอมเผ็ดนิดหน่อย เหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาด้านการย่อยอาหาร ส่วนที่ใช้ในการรับประทานคือส่วน หัว เผือกมีสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และมีธาตุเหล็กสูงและยังมีฟลูอออไรด์สูง ช่วยทำให้ฟันไม่ผุ กระดูกแข็งแรง เผือกยังช่วยบำรุงไต บำรุงลำไส้และแก้อาการท้องเสียอีกด้วย

ที่มา: บัวลอยไข่หวาน [3]

4. sanook

รวมสูตรบัวลอยไข่หวาน จาก เว็บไซต์ sanook ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

วัตถุดิบ บัวลอย

เนื่องจากที่บ้านทำปริมาณมาก ให้เพียงพอต่องานบุญ จำนวนสมาชิก และเพื่อนบ้านผู้น่ารัก แต่คงไม่สะดวกนักสำหรับครอบครัวเล็กหรืออยากลองทำรับประทานกันไม่กี่คน เราเลยแจกแจงอัตราส่วนของวัตถุดิบเป็นส่วนเพื่อให้ท่านที่สนใจทำกันเองในครอบครัวเล็กๆ ได้นะคะ

  •  แป้งข้าวเหนียว 1.5 ส่วน (ยี่ห้อใดก็ได้)
  • แป้งมันสาคู 1 ส่วน (ยี่ห้อใดก็ได้)
  • ใบเตยคั้นน้ำเข้มข้น 1 ส่วน (ต่อแป้ง 3 ส่วน)
  • มันเทศ เผือก ฟักทอง อย่างละ 2 ส่วน (ต่อแป้ง 1 ส่วน)
  • กะทิคั้นสด, มะพร้าวน้ำหอม, น้ำตาลทราย, เกลือ, ไข่ไก่ หรือไข่เป็ด (ปริมาณตามชอบ)

วิธีทำ บัวลอย

  • เริ่มจากนำแป้งข้าวเหนียวและแป้งมันนำมาร่อนผสมกันเตรียมไว้ จากนั้นแบ่งแป้งเป็นส่วน ๆ ตามสีที่ต้องการทำค่ะ ครั้งนี้เราแบ่งเป็นสี่ส่วน คือ สีส้มจากมันเทศ สีเหลืองจากฟักทอง สีนวลจากเผือก และสีเขียวจากใบเตย
  • นำเนื้อมันเทศ เผือก และฟักทองไปนึ่งจนสุกดี ส่วนใบเตยให้หั่นเป็นชิ้นนำไปปั่น คั้นน้ำเข้มข้นออกมาเตรียมไว้
  • เมื่อนึ่งสุกดีแล้วจึงนำเนื้อมาบดนวดผสมกับแป้ง โดยประมาณสัดส่วนตามน้ำหนัก 2:1 เช่น หากใช้เนื้อมันสุก 400 กรัม ให้ใช้แป้ง 200 กรัมค่ะ นวดไปเรื่อย ๆ จนเข้ากันดี ส่วนแป้งที่ผสมใบเตยให้ค่อยๆ นวดแล้วหยอดน้ำใบเตยลงไปนะคะ
  • แป้งที่นวดกับเนื้อมันเทศ เผือก และฟักทอง หากรู้สึกว่าแป้งแห้งไประหว่างนวด ให้เติมน้ำมะพร้าวน้ำหอมทีละนิด แล้วนวดต่อจนได้ที่ค่ะ
  • นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเท่า ๆ กัน โรยแป้งนวล (แป้งมัน) บาง ๆ ไม่ให้ติดกัน โดยแยกสีเขียวไว้ต่างหากนะคะ เพราะสีเขียวจากไปเตยเป็นแป้งล้วน การนำไปลวกจะใช้เวลานานกว่าสีอื่น ๆ ค่ะ เราต้องแยกไว้ลวกหลังสุด
  • ปั้นเสร็จนำไปลวกในน้ำเดือด ใช้กระชอนหรือตะแกรงลวกหมั่นคน เมื่อเม็ดแป้งลอยขึ้นแสดงว่าสุกดีแล้ว ให้ตักออกมาน็อกในน้ำเย็นหรือน้ำสะอาดธรรมดาให้คลายร้อนแล้วช้อนออก เพื่อไม่ให้แป้งเละจนเกินไป
  • ลวกแป้งคละสีทั้งหมดแล้ว นำแป้งสีเขียวมาลวกต่อด้วยขั้นตอนเดียวกันค่ะ
  • เพื่อให้สมชื่อว่าเป็น “บัวลอย” เราเลยอยากได้ “ดอกบัว” ลอยอยู่บนน้ำกะทิด้วย จึงลงมือใช้แป้งเดียวกันบรรจงปั้นกลีบบางประกอบเป็นดอกบัว แล้วนำไปลวกในน้ำเดือด ขั้นตอนนี้แล้วแต่จะจินตนาการเลยนะคะ แต่แนะนำว่าเมื่อปั้นเสร็จแล้วควรลงน้ำร้อนเพื่อลวกทันที เดี๋ยวแป้งจะแห้งจนกลีบหักไปเสียก่อนค่ะ
  • บัวลอย เป็นเนื้อคู่กับไข่หวาน เราใช้วิธีเคี่ยวน้ำเชื่อมจากน้ำตาลทรายเตรียมไว้ โดยใส่ใบเตยลงไปด้วยเพิ่มความหอม จากนั้นแบ่งน้ำเชื่อมเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับเติมในน้ำกะทิ อีกส่วนสำหรับทำไข่หวาน โดยตอกไข่ลงน้ำเชื่อมที่กำลังเดือดนั่นเองค่ะ (เราไม่ตอกใส่น้ำกะทิเพื่อรักษาสีน้ำกะทิให้ขาวสวยและป้องกันไข่แตกเละในหม้อบัวลอยค่ะ)
  • นำน้ำกะทิตั้งไปให้ร้อน แต่ไม่ถึงกับเดือดพล่านจนกะทิแตกมันนะคะ ใส่เนื้อมะพร้าวลงไป ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย จากนั้นเติมความหวานด้วยน้ำเชื่อมที่ทำไว้ หวานมากน้อย ชิมรสได้ตามชอบเลยค่ะ
  • เมื่อน้ำกะทิได้ที่ จึงใส่เม็ดแป้งที่ลวกไว้ และไข่หวาน เพียงครู่เดียวก็ดับไฟได้เลยค่ะ ตักใส่ถ้วย แล้วอิ่มอร่อยกับแป้งนุ่มหนุบหนับ หวานกลมกล่อมรับกับไข่หวานกันได้เลย

ที่มา: วิธีทำ บัวลอย เนื้อนุ่มหนุบหนับรับไข่หวาน [4]

5. cheechongruay.smartsme

รวมสูตรบัวลอยไข่หวาน จาก เว็บไซต์ cheechongruay.smartsme ได้ให้สูตร และวิธีการทำ ดังนี้

วัตถุดิบหลัก

  • แป้งข้าวเหนียว 3 กก. 90 บาท
  • แป้งมัน 1 กก. 37 บาท
  • สีผสมอาหาร 3 ขวด 3 สี 60 บาท
  • ข้าวโพดกระป๋อง 340 ก. 38 บาท
  • หัวกะทิ 2 กก. 135 บาท
  • น้ำตาล 3 กก. 69 บาท
  • ไข่ไก่ 20 ฟอง 100 บาท
  • เกลือ 7 บาท

อุปกรณ์ที่จำเป็น

  • เตาแก๊ส 500 บาท
  • ถังแก๊ส 7 กก. 1,400 บาท
  • หม้ออะลูมิเนียม 300 บาท
  • ทัพพี 70 บาท
  • ถุงหูหิ้ว 1.5 กก. 125 บาท
  • ถุงพลาสติกร้อน 1 แพ็ก 150 บาท
  • โต๊ะพับเหล็ก 500 บาท
  • เก้าอี้พลาสติก 125 บาท

งบรวมประมาณ 3,706 บาท

ส่วนผสม

  • แป้งข้าวเหนียว 3 ถ้วย
  • แป้งมัน1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่าสำหรับผสมแป้ง 100-150 มิลลิลิตร
  • สีผสมอาหาร(สีแดง,สีเหลือง,สีเขียว) สีละ2หยด
  • ข้าวโพดกระป๋อง 340 กรัม
  • กะทิกล่อง 500 มิลลิลิตร
  • น้ำตาล 250 กรัม
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่าสำหรับผสมกะทิกล่อง 200-250 มิลลิลิตร
  • น้ำเปล่าสำหรับต้มแป้งบัวลอย 1,800 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  • นำแป้งทั้งสองชนิดผสมกันแล้วแบ่งเป็น3ถ้วย ผสมสีผสมอาหารกับน้ำเปล่า แล้วนำน้ำที่ผสมสีมานวดกับแป้ง นวดจนเนียน สีทั่วกัน แล้วก็ปั้นเป็นลูกกลม ๆ
  • เตรียมกะทิโดยนำกะทิตั้งไฟอ่อน เติมน้ำเปล่าลงไป (พอที่จะไม่ให้หัวกะทิข้นเกินไป) จากนั้นเติมน้ำตาลทราย, เกลือป่น (ใส่นิดเดียวเพื่อตัดความหวาน), ไข่ไก่, ข้าวโพดหวาน พอเริ่มมีฟองเดือดที่ขอบ ๆ ก็ยกลงจากเตา (หากมีน้ำตาลปี๊บแนะนำให้ใช้ผสมกับน้ำตาลทรายอย่างละครึ่งกับปริมาณน้ำตาลทั้งหมดที่จะใช้ เพราะจะได้ความหวานนวลๆไม่หวานแหลม)
  • ต้มแป้งบัวลอยที่ปั้นเสร็จแล้วในน้ำเดือด พอแป้งลอยก็ช้อนขึ้นใส่กะทิที่เตรียมไว้ เป็นอันเสร็จ

ที่มา: สร้างอาชีพเปิดร้าน บัวลอยไข่หวาน เมนูขนมไทยสร้างชื่อ [5]

สรุป รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน

รวมสูตร บัวลอยไข่หวาน เป็นเมนูของหวาน ที่เริ่มจากการปั้นแป้งข้าวเหนียวเป็นลูกเล็กๆ แล้วนำไปต้มจนสุก จากนั้นเตรียมน้ำกะทิหวานมัน และต้มไข่ให้เป็นไข่หวาน ใส่ลงไปในถ้วยเพื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน กลายเป็นขนมไทยรสละมุนที่ทั้งหอม หวาน และนุ่มหนึบในคำเดียว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง