
ฟอสซิล ไครโอโลโฟซอรัส สัตว์กินเนื้อนักล่าขนาดใหญ่
- Chono
- 47 views
ฟอสซิล ไครโอโลโฟซอรัส หนึ่งในสายพันธุ์เทอโรพอด หรือไดโนเสาร์กินเนื้อ ที่มีชีวิตอยู่บนโลกในยุคจูราสสิกตอนต้น นักบรรพชีวินวิทยาได้คาดการณ์ไว้ว่า พวกมันมีชีวิตเมื่อประมาณ 196-188 ล้านปีก่อน ปัจจุบันคือทวีปแอนตาร์กติกา อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเทอโรพอดที่ใหญ่ที่สุด ในช่วงเวลาของยุคจูราสสิก
สำหรับการค้นพบ ฟอสซิล ไครโอโลโฟซอรัส สายพันธุ์ ไดโนเสาร์นักล่า กินเนื้อ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีจุดเริ่มต้นการค้นพบในช่วงฤดูร้อน ในระหว่างปี 1990-1991 พวกมันเป็นสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีการขุดพบบนภูเขาเคิร์กแพทริก และในเทือกเขาทรานส์แอนตาร์กติก ในชั้นหินทรายแป้ง พบโดยนักบรรพชีวินวิทยาชาวอเมริกัน วิลเลียม รอย แฮมเมอร์
ตัวอย่างฟอสซิลที่มีการขุดพบ ทำให้ได้ทราบอายุ ซึ่งย้อนกลับไปถึงช่วงเลียนส์บาเคียน ของยุคจูราสิกตอนต้น และต่อมาในปี 1991 นักธรณีวิทยาจากโอไฮโอ เดวิด เอลเลียต ได้ค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของไครโอโลโฟซอรัส เพิ่มเติมจากกลุ่มหิน ที่ใกล้กับธารน้ำแข็ง ซึ่งมีความสูง 13,000 ฟุต และแหล่งค้นพบดังกล่าว อยู่ห่างจากทวีปแอนตาร์กติกา ประมาณ 400 ไมล์
หลังจากการค้นพบฟอสซิล ทางแฮมเมอร์และทีมงานทั้งหมด ก็ได้ค้นพบหินมากกว่า 100 ก้อน ที่มีซากดึกดำบรรพ์ปะปนอยู่ รวมถึงซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ซึ่งมีน้ำหนักโดยรวมเกือบ 2,300 กิโลกรัม และซากฟอสซิลทั้งหมดที่ถูกค้นพบ ประกอบไปด้วยกระดูกสันหลัง กะโหลกศีรษะ ขากรรไกร สะโพก และข้อเท้า [1]
ข้อเท็จจริงหลังจากค้นพบฟอสซิล
อย่างไรก็ตาม การศึกษาในปี 2020 ที่ดำเนินการโดยนักบรรพชีวินวิทยา 2 ท่าน ได้แก่ อดัม มาร์ช (Adam Marsh) และทิโมธี โรว์ (Timothy Rowe) พบว่าพื้นฐานของไดโนเสาร์ชนิดนี้ เป็นนีโอเทอโรพอด และคาดว่ามีความใกล้เคียงกับ Averostra มากกว่า Coelophysoidea [2]
ไดโนเสาร์นักล่าขนาดใหญ่ชนิดนี้ ถือเป็นสัตว์ที่กินเนื้ออันดับต้นๆ แห่งยุคเลยก็ว่าได้ โดยพวกมันจะล่าไดโนเสาร์ขนาดเล็ก หรือไดโนเสาร์กลุ่มซอโรพอด ที่อาศัยอยู่ในยุคจูราสสิกตอนต้น ได้แก่ กลาเซียลิซอรัส และอาหารหลักของพวกมัน ส่วนใหญ่จะเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนาดเล็ก หรือไดโนเสาร์ที่อ่อนแอกว่าพวกมันนั่นเอง
สำหรับที่อยู่อาศัยของพวกมัน ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 200-180 ล้านปีที่แล้ว พวกมันอาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะภูมิประเทศของทวีปแอนตาร์กติกา ในช่วงเวลานั้น ภูมิประเทศถูกปกคลุมไปด้วยป่าทึบ และมีภูมิภาคอากาศแบบร้อนชื้น ในช่วงเวลานั้น แอนตาร์กติกายังเป็นส่วนหนึ่งของทวีปแพนเจีย
สำหรับไดโนเสาร์ที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นนักล่าที่ยอดเยี่ยม อันดับต้นๆ ของทวีปแอนตาร์กติกา และมักจะล่าไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่ แม้ว่ามันจะเอาชนะไดโนเสาร์หลากหลายชนิด แต่ศัตรูตามธรรมชาติ ก็คือพวกมันนั่นเอง เพราะนอกจากจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาณาเขตแล้ว ยังต่อสู้กันเอง เพื่อแย่งคู่สำหรับผสมพันธุ์
หลังจากที่คุณได้อ่านรายละเอียดข้างต้น ที่ทางผู้เขียนได้นำเสนอรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ประวัติการค้นพบฟอสซิลครั้งแรก ไดโนเสาร์ในตระกูลเดียวกันกับพวกมัน รวมไปถึงอาหารและศัตรูตามธรรมชาติของพวกมัน สำหรับเนื้อหาส่วนถัดไป เราจะพาไปดูลักษณะทางกายภาพ และบทบาทที่ได้รับในวัฒนธรรมสมัยนิยม มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
ลักษณะเด่นที่สุดของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ก็คือยอดเขาขนาดใหญ่บนศีรษะ เมื่อพวกมันเติบโตเต็มวัย จะมีความสูงประมาณ 21-25 ฟุต มีน้ำหนักของร่างกายโดยรวม 1,000-1,500 ปอนด์ พวกมันเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่ จึงมีกะโหลกศีรษะประมาณ 24 กิโลกรัม รวมไปถึงความยาวของร่างกาย ตั้งแต่หัวไปจนถึงหาง 20-23 ฟุต
จนมาถึงการศึกษาฟอสซิลในยุคปัจจุบัน ไดโนเสาร์กินเนื้อสายพันธุ์นี้ มีกะโหลกศีรษะสูงและแคบ นอกจากนี้ พวกมันยังมีกระดูกสันหลังส่วนคอเพียง 7-8 ชิ้น ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักของกะโหลกศีรษะ ซึ่งแตกต่างไปจากไดโนเสาร์ชนิดอื่น ที่มีกระดูกสันหลังประมาณ 10-12 ชิ้น แถมยังมีฟันแหลมคม ที่สามารถทะลุผิวหนังของเหยื่อได้อย่างยอดเยี่ยม
ที่มา: In the media [3]
โดยรวมแล้ว จากการค้นพบฟอสซิล ในทวีปแอนตาร์กติกา จนนำไปสู่การศึกษาข้อมูลทางบรรพชีวินวิทยา ทำให้นักวิจัยสามารถหาข้อมูลได้ถึงลักษณะทางกายภาพ ลักษณะที่โดดเด่น และไดโนเสาร์เครือญาติในวงศ์ตระกูลเดียวกันกับพวกมัน อีกทั้งลักษณะที่โดดเด่นของพวกมัน ทำให้มนุษย์เขียนบทบาทให้พวกมันในวัฒนธรรมสมัยนิยม
จากการศึกษาลักษณะทางกายภาพ เช่น โครงกระดูกส่วนขาหลัง ซึ่งมีขนาดใหญ่และแข็งแรง ทำให้นักวิจัยสามารถประเมินความเร็วในการเคลื่อนไหว ซึ่งเมื่อพวกมันออกวิ่งล่าเหยื่อ จะมีความเร็วสูงสุดในการวิ่งไล่ล่า ประมาณ 15-20 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 24-32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับไดโนเสาร์กินเนื้อบางชนิด เช่น ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ หรือทรูดอน ได้วิวัฒนาการก้าวกระโดด จนนำไปสู่การมีระดับสติปัญหาที่สูงกว่า แต่สำหรับไดโนเสาร์ไครโอโลโฟซอรัส ที่มีการกล่าวถึงว่ามันเป็นนักล่าที่โง่เขลา พวกมันมีสมองค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับขนาดร่างกายของพวกมัน