
ฟอสซิล เวโลซิแรปเตอร์ นักล่าที่มีขนปกคลุมทั่วทั้งตัว
- Chono
- 12 views
ฟอสซิล เวโลซิแรปเตอร์ ไดโนเสาร์นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หลายท่านอาจคุ้นหน้าคุ้นตา จากการปรากฏตัวในภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง อาจจะมีรูปลักษณ์ที่แปลกออกไป และในความเป็นจริงนั้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า พวกมันอาจมีขนปกคลุมทั่วทั้งตัว เราจะพาไปดูประวัติการค้นพบฟอสซิล และการปรากฏตัวของมัน
ฟอสซิล เวโลซิแรปเตอร์ มีการค้นพบครั้งแรก ที่เกิดขึ้นในระหว่างการสำรวจ ของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน ไปยังพื้นที่แหล่งโบราณคดี Flaming Cliffs ฟอสซิลชิ้นแรกที่ถูกค้นพบ เป็นส่วนกะโหลกศีรษะ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และมีความเกี่ยวข้องกับกรงเล็บนิ้วเท้า ที่มีการค้นพบในปี 1924
Velociraptor นั้นมาจากภาษาละติน ซึ่งหมายถึงลักษณะทั่วไป ของสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหาร นักบรรพชีวินวิทยา Osborn ได้กำหนดชื่อสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาว่า V. mongoliensis ตามประเทศต้นกำเนิด แต่ก่อนหน้านั้น ออสบอร์นได้กล่าวถึงสัตว์ชนิดนี้ โดยให้ชื่อว่า Ovoraptor djadochtari ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ
ต่อมาในปี 1999 รินเชน บาร์สโบลด์ และฮัลสกา ออสมอลสกา พวกเขาได้รายงานเกี่ยวกับตัวอย่าง เวโลซิแรปเตอร์วัยเยาว์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างกระดูกที่สมบูรณ์ รวมทั้งกะโหลกศีรษะ ของสัตว์ที่ยังมีอายุน้อย ตัวอย่างดังกล่าว ถูกพบที่บริเวณทูกริเคนชีเรห์ ของชั้นหินจาโดชตา เป็นโครงการสำรวจระหว่างมองโกเลีย-ญี่ปุ่น [1]
พวกมันเป็นนักล่าที่กินเนื้อเป็นอาหาร อาศัยอยู่ในยุคครีเทเชียส และอาศัยอยู่ในแถบเอเชีย มีการค้นพบฟอสซิลในสถานที่ต่างๆ ได้แก่ ประเทศแคนาดา มองโกเลีย และภูมิภาคบัตเคน มันเป็นหนึ่งในตระกูลเทอโรพอด ที่มีขนาดใกล้เคียงกับไก่งวง แต่มีหางที่ยาวกว่า ตัวอย่างนี้พบในบริเวณของประเทศมองโกเลีย
พวกมันมีฟันที่แหลมคม เท้าที่มีลักษณะโดดเด่น ซึ่งจะอยู่ที่นิ้วเท้าของมัน ซึ่งเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ และหางที่ยาวของมัน ใช้สำหรับสร้างสมดุลของร่างกาย ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า เวโลซิแรปเตอร์มีขนปกคลุมตามร่างกาย จึงทำให้มันดูเหมือนไก่งวงจากยุคดึกดำบรรพ์ และมีนิสัยที่ดุร้าย
ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากค้นพบฟอสซิล
ที่มา: Velociraptor pictures and facts [2]
นักวิทยาศาสตร์หลายท่าน พยายามที่จะหาข้อมูลว่า บรรพบุรุษของไดโนเสาร์ ที่นำไปสู่ Velociraptor และรวมถึงประเภทของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ที่ถูกค้นพบครั้งแรกในทะเลทรายมองโกเลีย ปี 1924 อย่างไรก็ตาม ในปี 2008 นักบรรพชีวินวิทยา ได้ค้นพบฟอสซิลกระดูกขากรรไกร ที่มีลักษณะคล้ายกัน ในภูมิภาคเดียวกัน
เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบไดโนเสาร์เครือญาติ ที่มีความเก่าแก่มากที่สุด นั่นก็คือไดโนเสาร์ขนฟูยาว 3 ฟุต ที่มีชื่อว่า เฮสเพอรอนนิทอยเดส มิสสเลอรี ไดโนเสาร์นักล่าขนาดเล็ก ที่มีขนปกคลุมทั่วร่างกาย และมีกรงเล็บคล้ายเคียวที่เท้าแต่ละข้าง อาศัยอยู่ในยุคตูราสสิกตอนปลาย ประมาณ 164 ล้านปีก่อน
ถึงแม้ว่า เฮสเพอรอนนิทอยเดส มิสสเลอรี จะไม่มีความสามารถในการบิน แต่การมีชีวิตของพวกมันบ่งชี้ว่า ไดโนเสาร์เริ่มวิวัฒนาการให้มีขน และมีแขนที่คล้ายกับปีกนก เมื่อประมาณหลายล้านปีก่อน ที่จะมีนกตัวแรกเกิดขึ้นมา และจุดสิ้นสุดช่วงชีวิตของเวโลซิแรปเตอร์ เกิดขึ้นภายหลังประมาณ 70 ล้านปีก่อน
ตามการประมาณครั้งล่าสุด พวกมันมีขนาดเล็กกว่าไดโนเสาร์เครือญาติ ได้แก่ โดรมีโอซอรัส โดยมีความยาวร่างกายประมาณ 4.6-6.8 ฟุต และมีน้ำหนักประมาณ 30-45 ปอนด์ การประมาณการขนาดนี้ แม้จะเล็กกว่าไดโนเสาร์ชนิดอื่น แต่ก็ไม่สามารถลดความสำคัญ หรือลดบทบาทในฐานะนักล่าที่มีความชำนาญ
จุดเด่นของมัน ก็คือกรงเล็บที่อยู่ที่เท้าแต่ละข้าง ซึ่งมีรูปร่างคล้ายเคียวเกี่ยวข้าว กรงเล็บนี้อาจมีความยาวได้ถึง 6.5 เซนติเมตร และคาดว่าน่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่เอาไว้ใช้สำหรับล่าเหยื่อ หากผสมผสานความสามารถในการวิ่งที่เร็ว ทำให้พวกมันเป็นไดโนเสาร์ขนาดเล็ก ที่มีประสิทธิภาพในการล่าที่ยอดเยี่ยม
หางของมันมีโครงสร้างกระดูกที่ยืดหยุ่น และมีลักษณะสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ช่วยให้เกิดความสมดุล และสร้างความมั่นคงให้แก่ร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อพวกมันกำลังวิ่ง หรือเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว หางอาจมีบทบาทในการสื่อสาร หรือแสดงออกทางพฤติกรรมบางอย่าง ถึงแม้จะเป็นการคาดเดาก็ตาม [3]
การปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องจูราสสิกพาร์ค มีฉากที่น่าสะเทือนใจ เมื่อไดโนเสาร์แตะกรงเล็บลงบนพื้น เพื่อช่วยค้นหาเหยื่อ นักวิทยาศาสตร์ทราบว่า พวกมันเดินด้วยนิ้วเท้าเพียงสองนิ้วบนพื้น กรงเล็บขนาดใหญ่ถูกยกขึ้นในอากาศ ซึ่งจะช่วยให้มันใช้งานกรงเล็บได้ตลอดเวลา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานพฤติกรรมการเคาะกรงเล็บ
ที่มา: In the Media [4]
โดยรวมแล้ว หลังจากที่มีการค้นพบฟอสซิล ก็ทำให้นักบรรพชีวินวิทยาหลายท่าน ได้ทราบถึงโครงสร้างทางร่างกาย ลักษณะที่โดดเด่น จนนำไปสู่การเขียนบทบาทให้กับพวกมัน ในการปรากฏตัวตามภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง และพวกมันยังมีความสำคัญต่อการศึกษา เกี่ยวกับการวิวัฒนาการของสัตว์ประเภทนก
จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ พบว่าไดโนเสาร์ชนิดนี้ สามารถวิ่งได้เร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในขณะที่เสือชีตาห์นั้น สามารถวิ่งได้เร็วถึง 80-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากจับสัตว์ทั้งสองชนิดมาวิ่งแข่งกัน เวโลซิแรปเตอร์ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเสือชีตาห์แน่นอน
มันมีพฤติกรรมการล่าเหยื่อเป็นฝูง สามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่ายดาย ซึ่งทำให้ตัวอื่นๆ สามารถโจมตีได้ ในท้ายที่สุด หากฝูงของมันมีความมุ่งมั่นเพียงพอ ก็สามารถเอาชนะทีเร็กซ์ได้ แต่ในความเป็นจริง การโจมตีรูปแบบนี้ พวกมันจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานมากเกินไป และมันจึงเลือกที่จะล่าเหยื่อขนาดเล็ก