ถิ่นอาศัย สไปโนซอรัส สัตว์นักล่ามีใบเรือตรงส่วนหลัง
- Chono
- 35 views
ถิ่นอาศัย สไปโนซอรัส ในช่วงเวลาที่มันมีชีวิต ย้อนกลับไปในยุคครีเทเชียสตอนปลาย เมื่อประมาณ 100-94 ล้านปีก่อน พวกมันเป็นนักล่าที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น มีครีบตรงแผ่นหลังคล้ายในเรือ สันนิษฐานว่าใบเรือนี้ อาจใช้สำหรับว่ายน้ำ เราจะพาไปดูถิ่นอาศัย และประวัติศาสตร์การค้นพบฟอสซิล มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สำหรับ ถิ่นอาศัย สไปโนซอรัส พวกมันดำรงชีวิต อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป และในช่วงเวลาของยุคครีเทเชียส ซึ่งปัจจุบันคือพื้นที่แอฟริกาเหนือ เป็นพื้นที่ที่มีแม่น้ำ เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ภูมิประเทศเป็นแม่น้ำและพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ สภาพอากาศอบอุ่น ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด
แต่ในช่วงเวลานั้น พื้นที่ดังกล่าวอาจถูกน้ำท่วม หรือเกิดน้ำท่วมตามฤดูกาล จึงเหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิตกึ่งน้ำกึ่งบก อย่างเช่นไดโนเสาร์ชนิดนี้ เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์กินเนื้อ อาหารส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์น้ำ ด้วยรูปลักษณ์ของกะโหลกศีรษะที่ยาว มีลักษณะคล้ายกะโหลกของจระเข้ ฟันรูปกรวย จึงทำให้มันจับปลาได้ดี
รูปแบบการปรับตัว ที่ไม่เหมือนกับไดโนเสาร์ชนิดอื่น พวกมันจึงมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ ในฐานะสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ พวกมันอาจช่วยควบคุมจำนวนปลา และไดโนเสาร์ขนาดเล็ก สำหรับการดำรงชีวิตแบบกึ่งน้ำกึ่งบกของมัน อาจส่งผลต่อการกระจายพันธุ์ของสายพันธุ์ต่างๆ ในระบบนิเวศที่มันอาศัยอยู่ [1]
ยังไม่ปรากฏข้อมูลที่ชัดเจน ว่าไดโนเสาร์ชนิดนี้เป็นสัตว์กินปลา หรือมีความชำนาญในการจับปลา แต่จากการศึกษาตัวอย่างหลักฐานของมัน มาจากสปีซีส์เดียวกันกับ Spinosauridae ได้แก่ไดโนเสาร์ Baryonyx ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เกี่ยวกับพฤติกรรมการกินที่หลากหลาย มีการพบฟอสซิลปลาในกะโหลกศีรษะ
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังพบฟอสซิลซากของไดโนเสาร์ Iguanodont ที่ยังไม่โตเต็มวัยในกระเพาะอาหาร ในปี 2009 Dal Sasso และเพื่อนร่วมงาน ได้ศึกษาและตรวจสอบด้วยคอมพิวเตอร์ พวกเขาเอกซเรย์ในส่วนของจมูก เนื่องจากฟอรามินาที่อยู่ด้านนอกทั้งหมด อาจมีความเกี่ยวข้องกับช่องว่างที่อยู่ด้านในของจมูกเช่นกัน
จากการศึกษาฟอสซิลทางบรรพชีวินวิทยาโดยตรง พบว่าสไปโนซอรัสอาจเป็นสัตว์นักล่า ที่กินเหยื่อได้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์น้ำ เช่น ปลาขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักหลายตัน ได้แก่ Mawsonia และ Onchopristis หรืออาจล่าสัตว์จำพวกจระเข้โบราณ รวมถึงสัตว์บก เช่น เทอโรซอร์ และออน์นิโทพอด [2]
หลังจากที่คุณได้ดูรายละเอียดเกี่ยวกับถิ่นอาศัยของ Spinosaurus ในส่วนถัดไป เราจะพาไปดูจุดเริ่มต้นการค้นพบฟอสซิล โดยฟอสซิลตัวอย่างแรกนั้น ถูกพบในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในปี 1912 นักบรรพชีวินวิทยาชาวโบฮีเมีย ริชาร์ด มาร์คกราฟ ได้ค้นพบโครงกระดูกบางส่วน ในชั้นหินบาฮาริยะ ทางตะวันตกของอียิปต์
ซากฟอสซิลที่มีการขุดพบเพิ่มเติม มาจาก Bahariya รวมถึงกระดูกสันหลัง และกระดูกส่วนขาหลัง ได้รับการกำหนดโดย Stromer ว่าเป็นสายพันธุ์ Spinosaurus B ในปี 1934 เขาถือว่าซากฟอสซิลเหล่านี้ มีความแตกต่างเพียงพอ ที่จะถูกจัดอยู่ในสปีซีส์อื่น และดูเหมือนว่ามีความเกี่ยวข้องกับ Carcharodontosaurus
ตัวอย่างฟอสซิลของพวกมัน ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแคนาดา โดยเป็นกระดูกสันหลังส่วนคอ ซึ่งมีความยาว 19.5 เซนติเมตร จากการค้นพบในบริเวณ Kem Kem Beds ของโมร็อกโก และเป็นโฮโลไทป์ที่ Russell อธิบายไว้ในปี 1996 ซึ่งอ้างอิงถึงสายพันธุ์ S. maroccanus ในเอกสารเดียวกัน [3]
ข้อเท็จจริงหลังจากค้นพบฟอสซิล
ขนาดและน้ำหนักของไดโนเสาร์ชนิดนี้ คาดว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าทีเร็กซ์ หลังจากที่มีการค้นพบ ฟอสซิล ทีเร็กซ์ พวกมันเป็นสัตว์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่มีการค้นพบ มีกะโหลกศีรษะยาว 1.75 เมตร มีลำตัวยาว 14-18 เมตร สำหรับมวลน้ำหนักของร่างกาย ยังเป็นที่ถกเถียง คาดว่าพวกมันมีน้ำหนักโดยรวม 22 ตัน
แต่หลังจากที่มีการศึกษาฟอสซิล พบว่าพวกมันมีมวลน้ำหนักของร่างกายทั้งหมด 7,400 กิโลกรัม (8.1 ตัน) พวกมันมีกะโหลกศีรษะแคบและยาว ซึ่งคล้ายกับจระเข้ และมีรูจมูกอยู่ใกล้ดวงตา แทนที่จะอยู่ใกล้กับปลายจมูก ส่วนฟันของมันเป็นรูปทรงกรวย แทนที่จะโค้งงอ ซึ่งแตกต่างไปจากเทอโรพอดชนิดอื่นๆ
พวกมันมีการปรับตัวให้เข้ากับการกินปลา โดยการศึกษาในระยะแรก ยังเกิดการตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับกระดูกของสไปโนซอรัส พบว่ามีความหนาแน่น และหนาแน่นกว่ากระดูกของเทอโรพอด ที่อาศัยอยู่บนบก จึงมีการค้นพบว่าพวกมันนั้น สามารถควบคุมการลอยตัวใต้น้ำได้ดีขึ้น [4]
โดยรวมแล้ว จากการขุดพบฟอสซิล จนนำไปสู่การศึกษาเกี่ยวกับถิ่นอาศัย ทำให้นักวิทยาศาสตร์ และผู้คนทั่วโลก ได้รู้จักกับรูปลักษณ์ทางด้านร่างกาย และที่สำคัญ ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความโดดเด่น จึงทำให้มันมีบทบาทในด้านสื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ เช่น การปรากฏตัวในภาพยนตร์ชื่อดัง และปรากฏตัวในวิดีโอเกม
สำหรับใบเรือที่มีความสูง 1.5 เมตร ที่อยู่ตรงแผ่นหลังของพวกมัน คาดว่าน่าจะมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกาย หรือเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออก ทางพฤติกรรมการผสมพันธุ์ ข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจ ใบเรือนี้อาจช่วยให้พวกมันว่ายน้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น
ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการเดินของพวกมัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่ามันเดินสี่ขาได้ ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า มันมีความสามารถเดินด้วยสองขาหลัง ถึงแม้จะไม่มีข้อมูลปรากฏที่ชัดเจน
