
ชินเดซอรัส กินอะไร มีประวัติการค้นพบครั้งแรกเมื่อใด
- Chono
- 26 views
ชินเดซอรัส กินอะไร ในช่วงเวลาที่พวกมันมีชีวิตอยู่บนโลก ซึ่งเป็นคำถามที่เหล่าบรรดาแฟนคลับ ที่คลั่งไคล้ไดโนเสาร์ ที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลก พวกมันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สัตว์กินเนื้อ ที่อาศัยอยู่ในยุคไทรแอสซิกตอนปลาย ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 216 ล้านปีก่อน เราจะพาไปดูอาหารการกิน และข้อมูลเกี่ยวกับการค้นพบฟอสซิลครั้งแรก มีข้อมูลดังนี้
คำถาม ชินเดซอรัส กินอะไร ซึ่งนักบรรพชีวินวิทยาได้ข้อสรุปว่า พวกมันเป็น ไดโนเสาร์นักล่า กินเนื้อ โดยพิจารณาจากฟอสซิลฟันของพวกมัน ซึ่งฟันมีการพัฒนา และมีการจัดเรียงเป็นระเบียบ โดยสันนิษฐานว่าพวกมันอาจล่าสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และสัตว์ขนาดเล็กอีกหลายๆ ชนิด
ด้วยลักษณะขาหลังที่ยาว และมีกระดูกสันหลังที่มีความยืดหยุ่น บ่งบอกว่าพวกมันอาศัยความเร็ว และความสามารถที่คล่องแคล่ว ในการออกล่าเหยื่อเพื่อกินเป็นอาหาร อีกทั้งนักบรรพชีวินวิทยารู้อีกว่า พวกมันมีพฤติกรรมและวิถีชีวิตคล้ายกับเทอโรพอดยุคหลัง อาจมีพฤติกรรมการอยู่รวมกัน หรือออกล่าเหยื่อแบบกลุ่มใหญ่
อีกทั้งยังมีการปรับตัว และมีวิวัฒนาการที่ยอดเยี่ยม ทำให้พวกมันกลายเป็นบรรพบุรุษ ของไดโนเสาร์ในยุคต่อมา ส่วนฟอสซิลของไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้ ถูกพบในสภาพแวดล้อม ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง ทำให้นักบรรพชีวินวิทยาคาดเดาไว้ว่า พวกมันเป็นนักล่าเพียงชนิดเดียว ที่ออกล่าเหยื่อขนาดเล็กในพื้นที่แห่งนี้
ถิ่นอาศัยในทวีปอเมริกาเหนือ ย้อนกลับไปในช่วงยุคไทรแอสซิกตอนปลาย มีสภาพอากาศอบอุ่นกว่าในยุคปัจจุบัน อีกทั้งภูมิประเทศรายล้อมไปด้วยทะเลสาบ แม่น้ำ และที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง จึงเป็นศูนย์รวมพืชพรรณหลากหลายชนิด โดยเฉพาะพืชจำพวกยิมโนสเปิร์ม ได้แก่ ต้นสน และพืชที่สร้างเมล็ดที่ไม่มีเปลือกปกคลุม
ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยพืชพรรณต่างๆ จึงเป็นศูนย์รวมของสัตว์กินพืชขนาดใหญ่ และสัตว์กินพืชขนาดเล็ก รวมถึงสัตว์เลื้อยคลานสายพันธุ์ต่างๆ และกลายเป็นแหล่งอาหารของไดโนเสาร์กินเนื้อ โดยเฉพาะ Chindesaurus และยังมีไดโนเสาร์นักล่าชนิดอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น Coelophysis
และเมื่อไม่นานมานี้ นักบรรพชีวินวิทยาได้ค้นพบข้อมูลที่น่าสนใจ เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม เช่น แอริโซนาในยุคไทรแอสซิกตอนปลาย ไดโนเสาร์ชนิดนี้อยู่ร่วมกับไดโนเสาร์โรมอร์ฟ ซึ่งเป็นสายพันธุ์บรรพบุรุษของสัตว์เลื้อยคลาน ที่อยู่ในช่วงวิวัฒนาการ ของการเปลี่ยนผ่านระหว่างสัตว์เลื้อยคลาน และไดโนเสาร์โรมอร์ฟอีกหลายสายพันธุ์ [1]
สำหรับไดโนเสาร์ยุคโบราณ Chindesaurus ที่ท่องเที่ยวไปทั่วพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง อาจมีคู่แข่งในการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยรูปลักษณ์ที่คล่องแคล่ว ว่องไว บางครั้งพวกมันอาจต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาณาเขตที่ตนเองครอบครอง โดยเฉพาะไดโนเสาร์ทาวา (Tawa) ที่อาจวิ่งได้เร็วกว่า ตัวเล็กกว่า ทำให้ชินเดซอรัสต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการล่า ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม
และไดโนเสาร์นักล่าที่อยู่ร่วมกับชินเดซอรัส นั่นก็คือ โกจิราซอรัส ซึ่งถือเป็นเทอโรพอดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในช่วงเวลานั้น และมีความเป็นไปได้ว่า ไดโนเสาร์ชนิดนี้ อาจอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ด้วยขนาดร่างกายมหึมา บางครั้งอาจเป็นภัยอันตรายต่อชินเดซอรัส ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะคู่แข่ง และผู้ล่าที่มีศักยภาพ
อีกหนึ่งสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่อยู่ร่วมกับชินเดซอรัส นั่นก็คือ แคมโปซอรัส ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน และบางครั้งอาจเป็นคู่แข่ง หรือเป็นส่วนเสริมในระบบนิเวศ ถึงแม้ว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง จะเต็มไปด้วยความคลุมเครือ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการล่า เพื่อให้พวกมันมีชีวิตรอด
สำหรับการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ ชินเดซอรัส (Chindesaurus) ถูกพบครั้งแรกในปี 1985 ซึ่งในตอนแรกนักบรรพชีวินวิทยาคิดว่า ฟอสซิลนี้อาจเป็นของไดโนเสาร์ซอโรโปโดมอร์ฟ อย่างไรก็ตาม แท้จริงแล้วเป็นของไดโนเสาร์เทอโรพอดจากยุคดึกดำบรรพ์ ที่ระบุว่าเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อในยุคแรก และเป็นไดโนเสาร์เครือญาติกับเฮอร์เรราซอรัส
ในช่วงเวลาต่อมา มีการค้นพบฟอสซิลเพิ่มเติม และมีสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้นักบรรพชีวินวิทยารู้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่างของพวกมัน กล่าวไว้ว่า ไดโนเสาร์ชนิดนี้มีรูปร่างขนาดเล็ก และอาจล่ากิ้งก่า และไดโนเสาร์กินพืชขนาดเล็กเป็นอาหาร หากเปรียบเทียบไดโนเสาร์ในยุคนั้น พวกมันถือเป็นนักล่าที่วิ่งได้เร็ว และมีความคล่องแคล่วมากที่สุด
ฟอสซิลโฮโลไทป์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์มากที่สุด ประกอบไปด้วยกระดูกสันหลัง กระดูกแขนและขา กระดูกสะโพก กระดูกสันหลังส่วนคอ กระดูกสันหลังส่วนหาง กระดูกสะโพกหลายชิ้น กระดูกเชิงกราน กระดูกหัวหน่าว กระดูกต้นขา และฟอสซิลเหล่านี้ ถูกส่งไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์บรรพชีวินวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
ข้อเท็จจริงหลังจากค้นพบฟอสซิล
ที่มา: Chindesaurus pictures and facts [2]
ที่มา: Classification [3]
หลังจากที่มีการค้นพบฟอสซิล และศึกษาข้อมูลจากตัวอย่างโครงกระดูกทั้งหมด ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปว่า พวกมันเป็นไดโนเสาร์นักล่า กินเนื้อของสัตว์ที่มีขนาดเล็ก โดยอาศัยโครงสร้างทางร่างกาย ที่ทำให้พวกมันมีความคล่องแคล่ว ว่องไว และขยายพันธุ์โดยการวางไข่
การค้นพบฟอสซิลในกลุ่มหิน Chinle ปัจจุบันคือพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติป่าหินตอนบน ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมถึง ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ เช่น กลุ่มสัตว์เลื้อยคลานยุคโบราณ พวกมันอาศัยอยู่ร่วมกับไดโนเสาร์ชนิดนี้ และยังมี ปลา เต่าโบราณ และหอย อีกจำนวนมาก
สำหรับลักษณะทางกายของไดโนเสาร์ตัวนี้ จากการศึกษาฟอสซิลที่ขุดเจอ ทำให้รู้ว่าพวกมันมีความยาวประมาณ 2 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 30-38 กิโลกรัม มีขาหลังที่ยาวกว่าขาหน้า ฟันแหลมคม และส่วนใหญ่พวกมันมักจะล่าเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่า โดยเฉพาะสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกขนาดเล็ก