
ประวัติ เซกิซอรัส นักล่าจากหุบเขาเซกิ รัฐแอริโซนา
- Chono
- 56 views
ประวัติ เซกิซอรัส สายพันธุ์ไดโนเสาร์กินเนื้อ จากกลุ่มเทอโรพอด พวกมันเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดเล็ก ถูกจัดประเภทให้อยู่ในตระกูลซีโลฟิซิด จากการค้นพบฟอสซิลสายพันธุ์ตัวอย่าง ซึ่งมีเพียงแค่สายพันธุ์เดียวเท่านั้น พบว่าพวกมันมีชีวิตอยู่ในยุคจูราสสิกตอนต้น ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 200-195 ล้านปีก่อน
สำหรับ ประวัติ เซกิซอรัส เริ่มต้นครั้งแรกโดยชนเผ่าอินเดียนแดง แม็กซ์ ลิตเติลซอลต์ ในฟาร์มปศุสัตว์ หลังจากที่เขาได้ขุดเจอซากดึกดำบรรพ์ ในชั้นหินทรายนาวาโฮ ในรัฐแอริโซนา แม็กซ์ก็ได้ยกตัวอย่างฟอสซิลนี้ ให้กับนักโบราณคดี หลังจากที่พวกเขาได้เข้ามาสำรวจในหุบเขาแห่งนี้ และพบกับฟอสซิลของสัตว์จากยุคดึกดำบรรพ์
นอกจากการขุดเจอฟอสซิลของไดโนเสาร์ Segisaurus ภายในหุบเขาแห่งนี้เป็นครั้งแรก ก็ไม่มีใครขุดเจอฟอสซิลของสัตว์ชนิดอื่นอีกเลย ภายหลังจากที่นักบรรพชีวินวิทยา ชาร์ล ลูอิส แคมป์ ได้อธิบายรายละเอียดเบื้องต้น เกี่ยวกับไดโนเสาร์ชนิดนี้ แต่กลับถูกละเลยเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษ
หลังจากที่มีการขุดเจอฟอสซิล ทางชาร์ลได้เปรียบเทียบลักษณะท่าทางของฟอสซิล เทียบกับท่านั่งของไก่ เนื่องจากตำแหน่งของซากไดโนเสาร์ชนิดอื่น จะอยู่ในท่านอนหลับหรือท่าทางกำลังหลบภัย แต่จากการขุดเจอฟอสซิลของเซกิซอรัสในชั้นหินทราย ชี้ให้เห็นว่าพวกมันเสียชีวิต ในขณะที่จมอยู่ในทรายนั่นเอง [1]
ข้อเท็จจริงหลังจากที่มีการค้นพบฟอสซิล
สำหรับ ไดโนเสาร์นักล่า กินเนื้อ ที่เคยอาศัยอยู่บนโลก ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 200-195 ล้านปีผ่านมา พวกมันเป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด เดินด้วยขาหลังทั้งสองข้าง นักบรรพชีวินวิทยากล่าวไว้ว่า พวกมันมีขนาดเทียบเท่ากับห่าน มีความยาวของร่างกายประมาณ 1 เมตร สูงครึ่งเมตร และมีน้ำหนักของร่างกายประมาณ 4-7 กิโลกรัม
มันเป็นสัตว์ที่มีความคล่องแคล่ว ว่องไว มักจะกินแมลงเป็นอาหาร ถึงแม้ว่าร่างกายจะออกแบบมาเพื่อการล่าเหยื่อ แต่ด้วยขนาดร่างกายที่เล็กมาก ทำให้มันต้องกินแมลงขนาดเล็กเท่านั้น ส่วนโครงสร้างทางร่างกายโดยรวม จะมีลักษณะที่คล้ายกับนกในยุคปัจจุบัน คอสามารถยืดหยุ่นได้ ลำตัวแข็งแรง มีนิ้วเท้าและนิ้วมือทั้งหมด 3 นิ้ว
เซกิซอรัสได้รับการอธิบายลักษณะทางกายภาพ จากตัวอย่างฟอสซิลที่มีการค้นพบเพียงชนิดเดียว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของไดโนเสาร์ที่ยังไม่โตเต็มวัย การค้นพบฟอสซิลที่เฟอร์คูลา พบว่ามันมีลักษณะเหมือนกับนก มีกระดูกไหปลาร้า มีโครงสร้างคอที่คล้ายกับเฝือก เพื่อช่วยในการรักษาสมดุลในการวิ่งที่รวดเร็วของมัน
การอธิบายข้อมูลของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ในปี 1936 จากนักบรรพชีวินวิทยาชาวอเมริกัน ชาร์ล ลูอิส แคมป์ (Charles Lewis Camp) ฟอสซิลโครงกระดูกที่ไม่สมบูรณ์นี้ ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ แขน ขา กระดูกเชิงกราน และกระดูกสันหลัง แต่ไม่ปรากฏส่วนที่เป็นกะโหลกศีรษะ จึงยากต่อการศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน
เมื่อตรวจสอบตัวอย่างดังกล่าว ก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ได้เห็นตัวอย่างฟอสซิล และได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้ โดยเฉพาะการมีกระดูกไหปลาร้า ที่มีลักษณะแข็งแรง ทำให้มันมีลักษณะคล้ายนกในยุคปัจจุบัน และหลายท่านต่างแสดงความคิดเห็นว่า พวกมันอาจใกล้ชิดกับไดโนเสาร์ซีโลฟิซิส
ความแตกต่างระหว่าง ซีโลฟิซิสและเซกิซอรัส ก็คือการมีกระดูกที่แข็งแรง แต่ซีโลฟิซิสมีกระดูกกลวง สิ่งนี้ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ เกิดการตั้งคำถามว่าเซกิซอรัส อยู่ในกลุ่มเทอโรพอดจริงหรือไม่ แต่ในปี 2005 การตรวจสอบโฮโลไทป์อีกครั้ง พบว่าพวกมันมีกระดูกกลวง และอาจใกล้ชิดกับไดโนเสาร์โปรคอมโซกนาทัส [2]
พฤติกรรมการดำรงชีวิตของไดโนเสาร์ Segisaurus นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า พวกมันอาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เพราะจะช่วยปกป้องจากนักล่า และช่วยกันหาอาหารได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกหนึ่งความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์ คาดว่าพวกมันสื่อสารกันด้วยการส่งเสียงร้อง และการแสดงออกทางร่างกาย
และสำหรับสภาพแวดล้อมที่พวกมันอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่จะมีสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น หรืออาจจะแห้งแล้งในบางพื้นที่ ปัจจุบันคือพื้นที่ของรัฐนิวเม็กซิโก สถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด ต้นเฟิร์นขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำและทะเลสาบ ซึ่งจะช่วยให้พวกมันหาแหล่งน้ำ และหาอาหารได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ในช่วงเวลาที่พวกมันอาศัยอยู่ โลกมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากยุคปัจจุบัน มีทวีปขนาดใหญ่ และมีไดโนเสาร์อยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งไดโนเสาร์และสัตว์เลื้อยคลานโบราณชนิดอื่นๆ ก็อาศัยอยู่ร่วมกับเซกิซอรัสเช่นกัน อีกทั้งยังพบฟอสซิลทางตะวันตกเฉียงใต้ ในประเทศสหรัฐอเมริกา และทำให้มนุษย์ได้รู้จักพวกมันมากยิ่งขึ้น
ครั้งหนึ่งนักวิทยาศาสตร์เคยคิดว่า พวกมันเป็นสัตว์ที่มีความเกี่ยวข้อง หรือมีความเชื่อมโยงในด้านของการวิวัฒนาการ ของไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอด เนื่องจากมีความเชื่อที่ว่า พวกมันมีกระดูกแข็ง แทนที่จะเป็นกระดูกกลวง แต่จากการศึกษาฟอสซิลในภายหลัง พบว่ามันมีกระดูกกลวง และไม่ได้มีความพิเศษใดๆ อย่างที่เคยเชื่อกัน
เซกิซอรัสเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดเล็ก ที่อาศัยอยู่ในยุคจูราสสิกตอนต้น และอาจล่าเหยื่อได้เฉพาะแมลง หรือสัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก ได้แก่ กิ้งก่า แต่ถึงอย่างนั้น พวกมันอาจหาอาหารเสริม ด้วยการกินซากสัตว์ที่ตายแล้ว อาจเป็นซากของสัตว์ที่ถูกไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ฆ่าตาย ถึงแม้จะไม่มีข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนมากก็ตาม
แต่สำหรับไดโนเสาร์ไดโลโฟซอรัส ที่เคยอาศัยอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับเซกิซอรัส ที่มีการล่าเหยื่อในพื้นที่เดียวกัน ปัจจุบันคือแถบประเทศสหรัฐอเมริกา มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอดชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกับไดโลโฟซอรัส อาจล่าไดโนเสาร์เซกิซอรัส ในขณะที่พวกมันมีชีวิตอยู่บนโลก [3]
ไดโนเสาร์ที่เคยมีชีวิตบนโลก เมื่อประมาณ 200 ล้านปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์เคยเชื่อว่า พวกมันอาจสูญพันธุ์เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และสิ่งแวดล้อมบนโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้เกิดการปะทุของภูเขาไฟ ทำให้พื้นดินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อแหล่งอาหาร และที่อยู่อาศัยของพวกมัน
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปจากโลก อาจเกิดจากการแข่งขันเพื่อแย่งชิงอาหาร เมื่อไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ถือกำเนิดขึ้นมา โดยเฉพาะการวิวัฒนาการ ทำให้เซกิซอรัสและไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆ ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด อาจมีนักล่าขนาดใหญ่ที่ล่าพวกมันเป็นอาหารเช่นกัน ซึ่งแต่ละทฤษฎีมีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องราวของการสูญพันธุ์
สำหรับผลกระทบทางด้านวัฒนธรรมสมัยใหม่ ถึงแม้ว่าเซกิซอรัสจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่เหมือนกับ T. rex หรือ Triceratops แต่พวกมันมีบทบาทในภาพยนตร์ชื่อดัง โดยเฉพาะการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ และไดโนเสาร์ขนาดเล็กบางตัว ก็ได้มีการนำเสนอให้พวกมันเป็นนักล่าที่ฉลาด ว่องไว อีกทั้งยังมีบทบาทในหนังสือหรือการ์ตูน
ผลสรุปจากการนำเสนอข้อมูลข้างต้น หลังจากที่นักบรรพชีวินวิทยา สามารถขุดพบฟอสซิล และได้ทำการศึกษาข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียด ทำให้ได้รู้เกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของพวกมัน และทำให้ได้รู้ว่าไดโนเสาร์นักล่าขนาดเล็กชนิดนี้ อาศัยอยู่เป็นกลุ่มเล็ก และล่าแมลงกินเป็นอาหารหลัก
สำหรับการปรากฏตัวให้ผู้คนได้รู้จักไดโนเสาร์ชนิดนี้ ไอคอนหรือสัญลักษณ์ของเซกิซอรัส ปรากฏอยู่บนแผนที่ของใบประกาศ ในภาพยนตร์เกี่ยวกับไดโนเสาร์ Jurassic Park และไดโนเสาร์ชนิดนี้ ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Jurassic Park Institute ซึ่งเป็นแฟรนไชส์เดียวกันกับ Jurassic Park นั่นเอง
สำหรับการแยกแยะของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ส่วนแรกจะมาจากกระดูกสันหลังของมัน ส่วนต่อมาคือกระดูกสะบัก ที่มีลักษณะเรียวยาว ส่วนที่สำคัญมากที่สุดในร่างกาย ก็คือการที่มีกระดูกกลวง ออกแบบมาให้มันมีร่างกายเบาหวิว เพื่อเพิ่มความสามารถในการวิ่งที่คล่องแคล่ว รวดเร็ว